บอกก่อนเลย ว่าจ่าหัวไม่เกินเบอร์แน่นอน เพราะตลอดการพักผ่อนท่องเที่ยวของไมมากว่า 10 ปี ที่นี่ติด Top ใน Bucket List ที่พัก ที่ควรมาครั้งหนึ่งในชีวิตไปแล้ว มันดี ดีมากเสียจนต้องหาเวลา ใช่!!! ใช้คำว่าหาเวลา หาโอกาสให้ตัวเองได้กลับไปพักที่นี่อีกสักครั้ง
รีวิวสั้น ถ้าไม่อยากอ่านยาว!!!
มาที่นี่ คุณจะสัมผัสความสบายที่หาที่ไหนไม่ได้ หนีห่างความวุ่นวายไปสู่ดินแดนแห่งความความโรแมนติกใจกลางหมู่เกาะมัลดีฟส์ สัมผัสกับประสบการณ์แสนประทับใจ ไม่ว่าจะเป็นทัศนียภาพอันงดงาม ความอัศจรรย์ใต้ผืนน้ำ และความผ่อนคลายที่รับรองได้เลยว่าใครไปก็ต้องหลงรัก…
ต้อนรับด้วยแชมเปญ!!!
ก่อนจะเริ่มเรื่อง ผมขอย้ำไว้ตรงนี้เลยว่า ใครสายเครื่องดื่มต้องชอบแน่ๆ และที่นี่เหมาะกับคู่รักที่สุด เพราะนอกจากจะถูกต้อนรับด้วย Welcome Drink รสชาติพิเศษแล้ว ยังมีแชมเปญมา Welcome ถึงห้องอีกด้วย นี่ยังไม่พูดถึงเครื่องดื่มต่าง ๆ ที่สั่งได้เรื่อย ๆ ด้วยนะ ไปดูภาพเปิดกันก่อนที่จะไปเรื่องอื่นก่อนเลยมะ ๕๕๕๕
การเดินทางไปรีสอร์ท
ถ้าจะให้อธิบายข้อมูลที่พักทั้งหมด ผมบอกเลยว่าไม่สามารถ เพราะมันเยอะมาก ๆ แต่บทความนี้ ผมจะเอาสัมผัสที่ได้จากการไปพักที่นี่ มาเล่าให้ทุกคนฟัง ว่าเป็นอย่างไรบ้างดีกว่า ซึ่งอย่างแรกเลยคือ ตัวโลเคชั่นเค้าดีมาก ห่างจากเกาะ Male เพียงแค่ 35 นาที นั่นเท่ากับว่า คุณเดินทางต่อจากสนามบินไม่นาน ก็ได้มามายังเกาะสวรรค์แบบนี้แล้วนะ ที่สำคัญคือ น้ำใสมากกกก หาดขาว ระบบการตกแต่งคือดีไปหมด
ซึ่งจะเดินทางโดยเรือนะ และต้องขอบอกว่า ตัว The Finolhu กับ Kani เค้าอยู่ใกล้กัน ทางรีสอร์ทมีรอบเรือทุก 30 นาที ให้เพื่อน ๆ ได้ไปร่วมสนุกกับอีกเกาะของเครือ Club Med ด้วย ตรงนี้เดี๋ยวผมจะรีวิวแยกเป็ของ Club Med Kani เลย เพื่อน ๆ สามารถเข้าไปอ่านรีวิวผ่านทางนี้ได้เลย: กดเพื่ออ่าน!!!
เลือกพักแบบไหนดี และห้องฝั่งไหนดี?
จริง ๆ ตัวรีสอร์ท เค้าแบ่งเป็นสองโซน คือโซนกลาง น้ำ และโซนบีชฟร้อนท์ แต่เอาจริงป้ะ ดีทุกโซนเลย อยู่กลางน้ำก็จะได้ฟีลแบบมัลดีฟหน่อย ๆ แต่อยู่ริมหาดก็คือได้ฟีลเป็นคนเกาะ แต่เป็นคนเกาะแบบ Luxury นะ เพราะหาดที่นี่มันขาว บวกกับน้ำทะเลที่ใสมองไปแบบไม่สิ้นสุด มันดีสุด ๆ ไปเลย
ซึ่งทั้งสองแบบ จะแบ่งเป็นสองฝั่ง คือ Sunrise กับ Sunset ต้องบอกว่าแล้วแต่คนชอบอีกแหละ แต่สำหรับผม มัลดีฟ ผมชอบฝั่ง Sunset มากกว่า ถ่ายรูปสวย แต่ช่วงที่ผมไป ผมได้ห้องฝั่ง Sunrise นะ ฉะนั้นภาพที่เพื่อน ๆ เห็นทุกคน จะเป็นฝั่ง Sunrise แต่เอาจริง ฝั่งไหนก็ได้ ถ้ามีแดด มีแสง ก็สวยหมด
BOOK แบบไหนดี แบบห้องรายวัน หรือแบบ All Inclusive?
ที่นี่ปกติถ้าซื้อห้องเปล่าราคาจะโดดมาก ๆ อยู่ที่คืนขั้นต่ำคือหลักหมื่น แต่บางคนก็ชอบฟีลนี้นะ เพื่อน ๆ สามารถจองได้โดยตรงผ่านทาง Club Med เลย แต่นี่ยังไม่รวมค่าเดินทาง อาหาร กิจกรรมอื่น ๆ นะ แต่จะบอกว่า ถ้าเราซื้อผ่าน Agency เค้าจะมีโปรจัดราคาเป็น Package All inclusive ให้เราในราคาเริ่มต้นที่บอกได้เลยว่าต้องจึ้ง เพราะรวมทุกอย่างหมดในราคาเริ่มต้นเพียงคนละ 2x,xxx บาท ไม่ว่าจะเป็นเรือรับส่งเกาะ อาหาร เครื่องดื่ม กิจกรรม บาร์ Floating Breakfast แชมเปญจ์นี่เปิดได้แบบรัว ๆ ไวน์ เหล้า เบียรื คือสั่งไปเถอะ ถ้าเอาไหว เพื่อน ๆ สามารถสอบถามแพ็คเกจนี้ตาม Season ได้ทาง LuxuryTravel TH นะครับ บริการดีมาก ๆ
ส่วนในห้องพัก ผมขอไม่พูดเยอะ เพราะที่พักระดับนี้ Facilities เค้าครบครันมาก ๆ รายละเอียดมันถูกใส่ใจจนไม่รู้จะถ่ายอะไรเก็บมา ไม่ว่าจะเป็นแปรงฟันด้ามไม้ กระเบนสลักที่เอาให้เป็นของขวัญ ที่นอนดูดวิญญาณ ผ้าห่มสุดอุ่น สระส่วนตัวที่สะอาด วิวอลังการ ของกินที่อร่อยแม้กระทั้งของทานเล่น ห้องน้ำแบ่งโซนเปียกโซนแห้ง แล้วแถมยังมี Bath มาตั้งไว้กลางห้องอีก มันดีไปหมดอ่ะทุกคน ให้การจัดห้องและ Design 10/10 เลย
อย่างที่เรามา เรามาแบบ All Inclusive ฉะนั้นเค้าก็จะแถม Floating Breakfast ให้เราหนึ่งมื้อเต็ม ๆ แล้วคืออาหารสั่งได้เป็นสิบ ๆ อย่าง สั่งมาทานไม่หมด แต่ว่าสั่งมาก่อน เพราะอยากลองทานทุกอย่างเลย น่าทานมาก!!!
มี Butler ส่วนตัว!!!
หลัก ๆ แค่ใช้ Facilities ในห้องก็แทบหมดเวลาแล้วนะ คือมันได้มาพักผ่อนจริง ๆ มันสบายไปทุกอย่างเลย และที่สำคัญ มี Butler ส่วนตัว และน่ารักมากกกกก Butler เราชื่อ Maki ดูแลทุกอย่าง ตั้งแต่เรื่อง Flight บิน เอกสารโควิด ไฟดับ แก้วแตก ขับรถมารับไปจุดต่าง ๆ สั่งอาหาร แนะนำอาหาร ช่วยจัดกระเป๋า ช่วย Pack กระเป๋า นางทำหมด และขากลับคือทำของขวัญให้เราด้วย งืออออ ว่าแล้วก็คิดถึง
มีแพลนนิ่งส่วนตัว
จะบอกว่านาน ๆ ทีจะมีพนักงานมาทำหน้าที่นี้ให้ ความดีงามคือ เค้าจะดูแลจัดการการมาพักของเราที่นี่ไม่ให้เราพลาดอะไรแม้แต่อย่างเดียว คำว่าพลาดเช่นอะไร เช่นมาถึงเค้าจะขอ Flight บินกลับ ขอเรื่องเอกสารโควิด ขอช่วงวันเวลาที่อาศัย สอบถามความต้องการว่าเราอยากทำอะไร จกานั้นเค้าก็จะจัดการให้ทุกอย่าง แล้วปริ้นท์ใส่ A4 มาวางไว้ที่ห้องเราเลย คือเบ็ดเสร็จ จบ ไม่ตกเครื่องแน่นอน!!!
พาดูรอบเกาะ
รอบเกาะจะมีจุดต่าง ๆ ที่เราสามารถเดินเยี่ยมชมและถ่ายรูปได้ และต้องชื่นชมเรื่องความสะอาดบนเกาะ คือดีแบบไม่ไหวอ่ะ มันดีมากจริง ๆ เดี่ยวจะพาไปดูแต่ละสถานที่นะ แต่จะไม่ลงรายละเอียดมาก ไม่งั้นจะนานเลย ที่แรก ตรงนี้เป็น Spa ของรีสอร์ท ที่ยื่นไปกลางน้ำ ฟีลดีสุด
ตรงนี้จะเป็นจุดเล่นชิงช้า ถ่ายรูปเล่นฝั่งตะวันตกดินหน้า Main Bar ติดกับท่าเรือเลย สวยมาก และเราก็ไม่พลาดที่จะมาถ่ายรูปเล่นตรงนี้แน่นอน
ตรงนี้เป็นท่าเรือ ไม่ว่าจะไปเกาะ Kani ไปดำน้ำ ไปที่อื่น ๆ กลับบ้าน หรือแม้กระทั่งอยากนั่งจิบฟีลกลางทะเล ที่นี่ก็มีบาร์ให้เราได้สั่งเครื่องดื่มทาน ต้องบอกว่าเค้ามี Bartener ทุกที่จริง ๆ ที่นี่ แล้วคือ ฟีลได้ ทะเลสวยมาก ๆ สะพานเข้าเกาะก็คือดีย์ ไม่ไหว!!!
ห้องอาหาร Motu บรรยากาศดีมีฉากหลังเป็นผืนมหาสมุทรอินเดียส่องประกายระบิบระยับ และตอนกลางคืนคือโรแมนซ์มากแม่ เป็นมื้ออาหารสุดโรแมนติกที่น่าจดจำอย่างแท้จริง รับรสชาติใหม่ ๆ กับเมนูสุดสร้างสรรค์ไม่ซ้ำกันทุกวันที่เชฟของ Motu เตรียมไว้
ที่นี่ เราจัดบรรยากาศให้เป็นแบบสบาย ๆ ในช่วงกลางวัน และเปลี่ยนเป็นความหรูหราในช่วงค่ำ มีบาร์ที่มองเห็นทิวทัศน์มหาสมุทร เติมความพิเศษด้วยพื้นกระจกใส ให้เพื่อน ๆ มองน้ำทะเลและฝูงปลาเบื้องล่างได้เพลิน ๆ ไม่ว่าในห้องปรับอากาศเย็นสบาย หรือกลางแจ้งบนชานวิวสวย เราก็พร้อมเสิร์ฟความอร่อยให้เราในทุก ๆ มื้อ
มากไปกว่านั้นยังมีบาร์ริมสระที่ติดกับท่าเรือ มีโซน Recection ที่ใหญ่โตมโหราฬ มีของที่ระลึก สนามเทนนิส และกิจกรรมอื่น ๆ มากมาย ที่ทั้งหมดนี้ เราแทบไม่ได้แวะเลย เพราะใหญ่มาก ๆ และอย่างที่บอกว่าแค่อยู่ในห้องก็เหมือนได้พักผ่อนแล้ว
Activities ที่รันตารางทุกวัน
ที่นี่เหมือนคลับคลับหนึ่ง จะมีตารางกิจกรรมให้เราได้ร่วมทำด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น โยคะ พายเรือ ดำน้ำดูปะการรัง หรือแม้กระทั่ง Theme ใส่ชุดดินเนอร์ ตรงนี้เค้าก็จะทำตารางระบุให้เราเลย ดีมาก ๆ
บอกเลยว่า เล่ายังไงก็เล่าไม่หมด และลงรูปยังไงก็สู้ความสวยที่ได้สัมผัสและเห็นด้วยตาของตัวเองจริง ๆ เอาเป็นว่า ใครที่แพลนไปมัลดีฟ แล้วกำลังลังเลว่าจะพักที่นี่ดีไหม ผมแนะนำเลยว่า คุณจะไม่ผิดหวัง สามารถจองผ่านทาง Club Med ได้โดยตรง หรือจะจองโปรกับทาง LuxuryTravel TH เพื่อรับโปรต่าง ๆ ก็ได้เหมือนกัน แล้วเจอกันระหว่างทางครับ
