เวียดนามครั้งใหม่ของผมนี้เป็นการลุยและสัมผัสความเป็นดาลัด-มุยเน่ ไปพร้อมกันในเวลาแค่วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ย้อนกลับไปดูภาพเก่าๆ นี่เราไม่ได้ไปเหยียบเวียดนามมาเกือบ 3 ปีแล้วหรอเนี่ย ล่าสุดก็เห็นจะเป็น ซาปา ที่แบกเป้ไปคนเดียว ทริปนั้นสนุกดี ได้เจอเพื่อนใหม่เยอะมาก ผมว่าการเดินทางแบบจู่ๆ ก็ไป แล้วไปคนเดียวเนี่ย มันมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูกเลยล่ะ รอบนี้ก็สนุกอีกแล้ว Hightlight อยู่ที่ดาลัด-มุยเน่ แถมโฮจิมินห์ให้ด้วย ลุยฝน ลุยทะเลทราย เดินป่าเบาๆ ไปดูน้ำตกมันมากก ก. ก. กกก ทริปนี้ผมมีเวลาไม่มาก แต่อยากไป เลิกงานเสร็จไม่รู้จะลงไปที่ไหน เลยกากบาทเวียดนามใต้ไว้เลย เพราะอยากไปเห็นบ่อน้ำสีเขียวๆ และเรื่องราวของผมนั้น ได้เริ่มต้นที่ H O C H I M I N
1.โฮจิมนต์สำหรับผม เป็นเมืองที่น่าอยู่แต่ไม่ควรอยู่นาน เพราะแออัด หนวกหูไปด้วยเสียงแตร บวกกับการจราจรที่ไม่ได้เน้นว่าจะถูกจะผิดอะไรกันขนาดนั้น ครั้งก่อนเมื่อสามปีที่มา ยังจำได้อยู่เลยว่าโดนโกงเงินไปเกือบ 1,000,000 ดอง ให้ตายเถอะ ไอ่สามล้อเป่าฮื้อ ทำกันได้ลง แต่จะว่าไป ที่นี่ก็มีสถานที่ให้ได้ถ่ายรูปสวยๆ เป็น Landmark อยู่บ้าง ซึ่งผมก็คงไม่ถ่าย เพราะบินมาถึงก็มืดแล้ว
2.ซิม แนะนำให้ใช้ซิมของที่นั่นไปเลยราคา 222,000 vnd ใช้ได้ 10 วัน เน็ต unlimited ถ้าเทียบค่าเงินเวียดนามตอนนี้ 1,000 VND / ดอง มีค่าราวๆ 1.5 บาทไทยครับ แนะนำว่าให้แลกเงินจากสนามบินเวียดนามไปเลย เพราะพอหลุดไปนอกเมือง โอกาสเจอความตรงเที่ยง น้อยมาก
3.เดินทางจากโฮจิมินต์ไปดาลัท ด้วย Sleeping Bus ที่จองมาก่อนอย่างทันท่วงทีจาก Futu bus line ค่าเสียหาย 220,000 ดอง มาที่แล้วไม่ได้มาจองโดยตรงโดนตบไปราวๆ 23 – 24 ที่นี่จะมีพวก Agency เยอะ จะซื้ออะไรต้องดูดีๆ แต่ถ้าบวกลบคูณหารออกมาเป็นเงินไทย ก็ไม่เท่าไหร่ แต่มีผลต่อจิตใจเหลือเกิน เงินหมื่นเงินแสนดองเนี่ย
4.Sleeping Bus ของ Futu Bus line แทบจะเป็นเจ้าเดียวที่คุมบัสทั้งเวียดนามใต้ ใครนึกภาพไม่ออกก็ดูตามรูปได้เลย ประมาณนี้ ซึ่งก็จะเป็นที่นอนยาวๆ พอดีๆ ตัวหน่อย นอนสบาย ก็ดีกว่านั่ง แต่ใครเสือกตัวสูงมึงก็ทำใจหน่อย เพราะแข้งชนคนหน้าแน่ๆ ใช้เวลาเกือบๆ 5 ชั่วโมงก็ถึง
5.ตอนอยู่ โฮจิมินต์ แนะนำให้เรียก Grab แต่ถ้าอยู่ดาลัท Taxi ได้เลย ที่นี่ราคาถูก และไม่ถูกโกงด้วย การเดินทางในดาลัทส่วนใหญ่ คนไทยมักเช่ามอเตอร์ไซต์ขับกัน รถราคาไม่แพงนะ อยู่ที่ราวๆ ไม่เกิน 150,000 ดอง แต่ต่อได้ราวๆ 120,000 ดอง ทุกอย่างต้องต่อดูก่อน ส่วนรถยนต์จะอยู่ที่ 600,000 ดอง อันนี้ใครไปหลายคนก็แนะนำว่ารถยนต์เลย ปลอดภัยกว่า เพราะสถานที่แต่ละที่ในดาลัทส่วนใหญ่ต้องขับโค้งไปโค้งมา ขึ้นเขาก็มี
6. ที่นี่คือ Ken’s House Backpackers เพื่อนๆ สามารถจองที่พักที่ไหนก็ได้บนโลกไปนี้ แล้วรับส่วนลด 1,000 บาทจากลิ้งค์https://goo.gl/UcmytA ไปเลย!!! เงื่อนไขง่ายๆ คือต้องจองในราคา 2,000 บาทขึ้นไป และต้องผูกบัญชีบัตรเครดิทกับ Booking.com แค่นั้น ที่สำคัญ ใช้ได้แค่ครับแรกและคนละครั้งเท่านั้นเด้อค่ะเด้อออ!!!
7.ที่แรกที่จะไปขับออกจากตัวเมืองไม่ไกลมาก ที่นี่คือสวนดอกไม้ขนาดเล็ก แต่ถ่ายรูปออกมาแล้วดูดีมีค่ามากๆ คือจะบอกว่าเหมือนสวนดอกไม้หลังบ้านที่ใหญ่หน่อย แต่ไม่ได้เป็นทุ่งกว้างสุดลูกหูลูกตาขนาดนั้น แต่ที่มันดูดีดูคูลเรพาะมีด้านหลังเป็นภูเขา และมีความเป็น Layers อย่างบอกไม่ถูก ที่นี่คือ Garden Hydrangeas เก็บค่าเข้าด้วยนะ คนละ 15,000 ดอง หอยยย!!!
8.ที่ต่อไปเป็น Café ริมทางที่น่าแวะอีกที่หนึ่ง เพราะมีระเบียงยื่นออกไปตรงหน้าผา มี Camping เป็นซุ้มๆ ให้ถ่ายรูปสวยๆ พนักงานน่ารัก //น่ารัก แต่ผังภาษาอังกฤษไม่ค่อยรู้เรื่อง กูสั่ง Less sugar เอา No Sugar มาให้กูเฉย แล้วคือกูสั่งโกโก้ไปไง ขมเย็นสิคะ ห่านนนน แต่ยังไงก็ไปลองดูค่ะ สวยดี The Juice Bar
9. elephant waterfall เป็นอีกหนึ่งน้ำตกที่อยากมามากๆ อยากมาตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้มา แต่ไม่มีโอกาส ครั้งนี้มีโอกาสมาก็รู้สึกดีใจมากๆ ที่ได้มาเห็นน้ำตกที่ตามหาภาพจาก internet ซึ่งพอมาเห็นจริงๆ มันยิ่งใหญ่กว่าในภาพเยอะเลย อาจจะเป็นเพราะช่วงน้ำหลากด้วย เลยทำให้ปริมาณของน้ำนั้นเยอะจนเอ่อล้นเลยทีเดียว ถ้ามาหน้าหนาว น้ำคงใส่กว่านี้ ถ้าถามว่าน้ำตกนี้ควรมาไหม ตอบได้คำเดียวว่าควร!!!
10.จะบอกว่าที่เที่ยวดาลัทเยอะมากกก แต่เก็บไม่หมดเลยเพราะฝนตกทั้งวัน ไม่รู้ว่าดวงดีหรือไม่ดี แต่ตกกก ตกทั้งวัน เลยตัดสินใจไปอ่างเขียวที่เห็นในรีวิวไปเลย แต่ๆๆ ระหว่างทางเรามักจะเจออะไรที่ไม่คาดคิด อย่างร้านนี้ เป็นร้านย่างหมูป่า ที่เลี้ยงหมูป่าไว้ที่ร้านเลย แล้วไม่ใช่ใส่กรงนะ เลี้ยงไว้ตามพื้นร้านอาหารเลย แล้วพอมีคนสั่งอาหารก็จะจับเจ้าหมูไปเจื๋อน ถลกหนัง แล้วก็หั่นมาย่างกันสดๆ คนรักสัตว์ไม่ควรมาร้านนี้ แต่ด้วยความที่มันสด เลยทำให้เจ้าหมูหอมหวาน อร่อยมันสุดๆ บวกกับวิวที่ติดกับ Golden Valley แล้วล่ะก็ ที่นี่ถือเป็นอีกจุดแวะพักดีๆ จุดหนึ่งเลยก็ว่าได้ ห้ามพลาด เอาชื่อนี้ไป search เลย Khu Cắm Trại Sơn Thuỷ ขอบอกว่าข้าวอร่อยมาก เพราะหุงในไม้ไผ่ ต้องลองนะ
11.ต่อจาก Khu Cắm Trại Sơn Thuỷ ระหว่างทางไปบ่อเขียวจะสวยมาก มีป่าสน และก็ทะเลสาบให้ถ่ายรูปเล่นกันอยู่เรื่อยๆ ถ้ามีเวลา ผมว่ารูทเส้นนี้ ถ้าไม่ติดว่าต้องไปที่ไหนต่อ ให้ไปทั้งวันเลยครับ เพราะที่แวะถ่ายรูปเยอะมาก
12.ซึ่งข้อ 10-11 คือทางเดียวกันกับทางมาอ่างเขียว หรือ Tuyệt Tình Cốc ครับ ขอเรียกอ่างเขียวแล้วกันนะเรียกง่าย คือใครที่คิดว่าไปง่ายๆ คิดผิดเลยนะ เพราะต้องเผื่อเวลาไปเลยครึ่งวัน ถ้าเกิดวันไหนคิวเยอะรอไปเถอะ เพราะถนนมีเส้นเดียว และต้องนั่ง 4×4 ขึ้นไปนะครับ ทางเหี้ยมาก โคลนเหี้ยมาก เปียกมากกกก ค่าเสียหายคนละ 100,000 เพื่อขึ้นไปดูเหมืองแร่ที่ถูกทิ้งร้างไปแล้ว ลองคิดเอาเองว่าคุ้มมั้ยกับการขึ้นมา ฮาๆๆๆ แต่ก็อย่างว่า ถ้ามาถึงเราก็จะไปพูดกับเค้าได้จริงๆ ว่าเรา “ เ ค ย มา แ ล้ ว “
13.ตลาดมืด นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดของเมืองนี้สำหรับคนชอบกินอาหาร คือดีงามตามท้องเรื่อง เป็นแหล่ง shopping ทีเก๋ไก๋เหมือนตลาดแถวต่างจังหวัดบ้านเราแต่สภาพภูมิอากาศนั้นดีกว่ามาก ถึงแม้ว่าดึกแล้วฝนจะยังตกอยู่ ของกินคือดีงาม มีให้กินเยอะ เลือกเอาเลยตามใจอยาก ไม่ขอแนะนำใดๆ
14.เดินทางจากดาลัทไปมุยเน่ห์ จองตั๋วรถกับเจ้าไหนก็ได้ จองไปเลย แต่อย่าให้เกิน 150,000 ดอง แล้วคือการนั่งรถจากดาลัทไปมุยเน่ห์เนี่ย จะใช้เวลาราวๆ 4-5 ชั่วโมง เป็นรถนั่งไม่ใช่รถนอน เพราะฉะนั้น โหลดหนังโหลดเพลงไว้ในโทรศัพท์รอเลยจร้า ซื้อที่ไหนก็ได้ แจ้งที่พักไป จะมีรถมารับเราถึงที่
15.ตัดภาพมามุยเน่ห์แบบไม่อ้อมค้อมใดๆ ปกติคนมามุยเน่ห์จะต้องซื้อทัวร์ Half Day Trip ราคาหัวละไม่เกิน 100,000 ดอง หรือเหมารถ Jeep เก๋ๆ คันละไม่เกิน 650,000 ดอง ก็เลือกเอาที่ถูกใจ หลักๆ ที่เค้าจะพาไปก็มี Fairy Stream Water, White sand dune, Red sand dune และ Fishing Village แต่ครั้งนี้ขอเหอะ ขอตัด Fairy Stream water ออก เพราะแม่งไม่มีอะไรเลย แต่ๆๆๆ คนยังไม่เคยมา ก็ไปซะนะ ครั้งนี้ก็เลยเปลี่ยนเอา Surf Beach เข้ามาในโปรแกรมแทน
16.จริงๆ แล้วก็อยากจะตัด Fishing Village ทิ้งด้วยนะ แต่ก็นะ เด่วจะไม่คุ้มเงินที่จ่ายไป ก็แวะหน่อย Fishing Village ที่นี่สกปรกมากกก แกะปลาแงะปูดูดหมึกออก ก็เทกันลงตรงหาดทรายนี่แหละ ทำให้สภาพนี่คือเฮียมากกก เหม็นมากกกก กะว่าจะเข้ามาชมวิถีชีวิต นั่งเรือประมงชิคๆ เสียหน่อย แต่ไม่ไหวค่ะ เจ๊ไม่ทน ๕๕๕๕
17.White Sand Dune อันนี้เรียกได้ว่าคือ Highlight สำคัญของทริปนี้เลยก็ว่าได้ ตอนเราไปคือลมแรงมาก ไม่กล้าเอากล้องออกมาถ่ายรูปเท่าไหร่ ใครเอากล้องใหญ่ไปก็ดูแลหน้าเลนส์ดีๆ เพราะถ้าเม็ดทรายข่วนเอาจะไม่คุ้ม แต่ก็เก็บภาพมาได้ชิคๆ คูลๆ อยู่นะ ซึ่งงงงง มี ATV ให้ขับ มี Jeep ให้ขี่ ส่วนเรื่องราคานั้น หลักล้านจร้า
18.Red Sand Dune ตรงนี้นั้นจะไม่สวยเท่า White Sand แต่จะมีการละเล่นคือ Sand Board จริงๆ มันก็ไม่ได้เป็น Board จ๋าหรอก เรียกว่าเอาไวนิลแข็งๆ มาให้เราเช่าไถลเล่นลงทรายมากกว่า เล่นแล้วก็เปื้อนตามคาด ถามว่าสนุกมั้ย ก็สนุกดี สวยมั้ย ก็ได้อยู่ จริงๆ ดูพระอาทิตย์ตกจุดนี้ก็ใช้ได้เลยทีเดียวนะ
19.ถัดมาจาก Red Sand Dune ไม่ไกลก็จะเจอ Surf Beach เลย แต่เสียดายมากๆ ที่ตอนเราไปคลื่นหมดแล้ว ฝรั่งคนสอนบอกว่าต้องมาตอนเช้า ที่นี่คลื่นแรง นี่เลยช็อคเลย เพราะเดียววันนี้ต้องนั่งรถกลับจากมุยเน่ห์ ไปโฮจิมินต์วันพรุ่งนี้
20.จริงๆ มามุยเน่ห์ อาหารหลักคงหนีไม่พ้นอาหารทะเล แนะนำให้หาร้านที่ห่างๆ ไปจากเมืองหน่อย ราคาจะถูกกว่าในเขตท่องเที่ยวกว่าครึ่ง ซึ่งอีกเมนูที่ห้ามพลาด นั่นก็คือ Lobster บอกราคาไว้ตรงนี้เลยว่า ถ้าร้านในเมืองขายโลละ 1,000,000 ดอง ถัดมาเดินอีกไม่กี่สิบเก้าเจอโลละ 500,000 ดอง แบบนี้ เลย ยังไงก็ลองดู ส่วนเรื่องรสชาติขอไม่พูดถึง ตามไสตล์ของลิ้นแต่ละคน ๕๕๕
21.คืนนี้หลายคนคงนอนมุยเน่ห์ แต่ผมคงมั้ย ซื้อตั๋ว Sleeping bus ราคา 150,000 กลับโฮจิมินต์เรียบร้อยแล้ว ครั้งก่อนที่มาก็ทำแบบนี้ นี่เป็นเวย์สำหรับคนมีเวลาน้อย ใช้เวลาเดินทางเป็นเวลานอน แต่ด้วยความที่รถที่นี่เค้า support การนอนด้วยไง อะไรๆ มันก็เลยง่าย จากมุยเน่ห์ กลับไปโฮจิมินต์ใช้เวลาแป็บเดียวก็ถึง
22.4-5 ชั่วโมงเราก็เดินทางมาถึงโฮจิมินต์แล้วล่ะ จะไม่พาเดินไปเที่ยวจุดสำคัญๆ ในเมืองก็จะหาว่าใจร้าย นี่เลยเรียก Grab ให้พี่เค้าพาไปเก็บภาพ 3 จุด Landmark ในเมืองมาให้เพื่อนๆ ดูหน่อยว่า ถ้ามาโฮจิมินต์ ควรจะต้องมาเก็บ Landmark ถ่ายรูปสวยๆ ตรงไหนกันบ้าง ซึ่งทั้งสามที่นี้ อยู่ติดกันหมด เดินแป็บเดียวก็ถึง
23.ที่แรกคงจะเป็น Notre Dame Kathedral เป็นโบสถ์ที่ดังที่สุดในโฮจิมินต์แล้ว ด้วยรูปร่างรูปทรงและโทนสีที่ดูสง่า มีสวนอยู่ข้างหน้าโบสถ์พร้อมกับฝูงนกพิราบเต็มลาน จึงทำให้ที่นี่ เป็นที่แรกๆ ที่คนจะนึกถึงเมื่อมาที่โฮจิมินต์
24.ที่ที่สองก็อยู่ข้างๆ กันเลย เป็นไปรษณีย์โฮมิจินทร์ที่ตัวตึกยังคงความเป็นชิโนปุตุกิสไว้ ตัวตึกทาสีเหลืองเต็มอาคาร มีชื่อภาษาอังกฤษเอาไว้ search หาใน google ว่า Saigon Central Post Office ถ้าใครหิวก็จะมี McDonald’s ขายตรงนี้ด้วยนะ
25. ก็เดินลงมาหน่อยก็จะเจอรูปปั้นลุงโฮครับ หรือ Ho Chi Minh Stutue ซึ่งจุดนี้เองนี่แหละ ที่เป็นใจกลางเมืองโฮจิมินต์ ถ้าเพื่อนๆ ได้เอาสองเท้ามาเหยียบ ณ ลานตรงนี้แล้ว ก็ถือว่ามาถึงโฮจิมินต์อย่างสมบูรณ์ แล้วถ้าศึกษาเรื่องราวของลุงโฮนะ บอกเลยว่าจะต้องทึ่งกับคุณลงโฮมากๆ
และนี่ก็เป็นเรื่องราวเกล็ดเล็กเกล็ดน้อยสำหรับคนที่สนใจรูทท่องเที่ยว โฮจิมินต์ – ดาลัท – มุยเน่ห์ นะครับ แผนการนี้เป็นแผนการเดินทางง่ายๆ ที่คนมีเวลาไม่มากจะได้เก็บสถานที่สำคัญๆ ของแต่ละเมืองได้ครบหมดทุกที่ แต่หากใครมีเวลานานหน่อย ก็อยากให้เพิ่มดาลัทไปอีกสัก 2 วันครับ เพราะกิจกรรมที่ดาลัท มีให้ทำเยอะมาก ส่วนมุยเน่ห์ก็แนะนำให้อยู่ 1 วัน หรือมากหน่อยก็ 1 คืนพอละกัน
เอาล่ะ ใครที่กำลังจะเดินทางไปเที่ยว ก็อย่าลืมนะว่าทาง Expedia เค้ามี Promotion ปลดล็อคที่พัก 51% หลังจากจองตั๋วบินอยู่ ยังไงก็ลองโหลดแอพพลิเคชั่นมาใช้ หรือจองผ่านคอมพิวเตอร์ที่บ้านเพื่อนๆ เลยก็ได้ นี่ก็เป็นอีกการเดินทางหนึ่งที่จองผ่าน expedia ทั้งหมด ยืนยันว่า ใช้ได้จริง ขอให้เพื่อนๆ ที่ยังไม่เคยมาที่นี่ ได้เที่ยวที่นี่จริงๆ ด้วยตัวเองแบบไม่ต้องตามอ่านรีวิวแล้วนะ มาเองได้แล้ว แล้วเจอกันระหว่างทางครับ : )
:: follow us ::
Youtube : https://goo.gl/Tk9uHo
Fan Page : https://goo.gl/kDE9eh
Facebook : https://goo.gl/S42XZq
Instagram : https://goo.gl/60tM0B
Twitter : https://goo.gl/wx2I34
Pinterest : https://goo.gl/P1FsxN
Google+ : https://goo.gl/uQrGS9
Website : https://www.palapilii.com/
#palapilii
#wanderlust
#YOLO