11 ที่เที่ยวหน้าฝนในไทย ที่คุณห้ามพลาด

11 ที่เที่ยวหน้าฝนในไทย ที่คุณห้ามพลาด

กราบบบบบ สวัสดีครับ จากประสบการณ์กว่า 4 ปีที่ผมได้ใช้ชีวิตโลดร่อนไปทุ่วสารทิศในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น เหนือ ใต้ กลาง ตก ออก ดอก ออก ผ… เห้ย!!! นั่นมัน กพอ. แล้วอิห่า ก็นั่นแหละครับ ผมไปมาหลายที่ ที่อยากจะไป และบางที่ที่ไม่อยากไป ก็ไม่ได้ไป แต่ที่ที่อยากไป ไปมา แล้วคิดว่า มันเป็นที่สุดยอดของฤดูฝนในไทยนั้นลิสต์มาได้ราวๆ 10 กว่าที่ ซึ่งรายชื่อสถานที่ข้างต้นนั้น อยู่ข้างล่างนี้แล้ว!!!!

เนินมะปราง

เนินมะปราง เป็นสถานที่ที่ผมชอบมากอีกที่หนึ่งครับ เพราะนอกจากจะเป็นสถานที่ที่คนไม่ค่อยรู้จักแล้ว สถานที่แห่งนี้ยังให้ความเป็นส่วนตัวกับเราได้อย่างดี ในช่วงหน้าฝนนั้นจะมีหมอกล่องลอยเหนือหุบเขาและหมู่บ้าน มีผีเสื้อเต็มลานหญ้าในบางช่วง และช่วงกลางคืนที่หมู่บ้านรักไทยก็จะมีหิงห้อยนับพันนับหมื่นตัวล่องลอยกันให้ว่อน ทีเด็ดไม่ได้จบเพียงแค่นี้ มีถ้ำ มีวัด มีหินปูนเขาคล้ายวังเวียง มีชิงช้าต้นไม้รูปหัวใจ มีอะไรอีกเยอะ ตามไปอ่านต่อกันที่นี่ รีวิวเนินมะปราง

เขื่อนรัชประภา

เขื่อนระชประภา ต้องบอกว่าเป็น Unseen Thailand สุดๆ คือเรียกได้ว่าเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่สามารถมาได้ทุกฤดูครับ แต่ที่แนะนำให้มาฤดูฝน ก็เพราะบรรยากาศของหน้าฝนที่ดูชุ่มช่ำไปตลอดสองฝั่งริมเขื่อน น้ำลึกมากนะครับ แต่ก็มีหินปูนที่โผล่ขึ้นต้งตระหง่าน เป็นฉากหลังควบคู่กับป่าสองฝั่งริมน้ำ ให้ตายเถอะ ภายในยังมีการล่องแพที่บึง 500 ไร่ และมีถ้ำสวยๆ ให้เพื่อนๆ ได้ Explore กันอีกด้วย มากไปกว่านั้นหากมีเวลา ลองติดต่อกับเจ้าหน้าที่ เพื่อขึ้นไปดูตาน้ำ ที่มาของน้ำอีกส่วนหนึ่งอันมหาศาลที่กักเก็บไว้ใช้ในยามจำเป็น ทีเด็ดอยู่ที่เราจะได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเองและคนรอบข้างได้อย่างสมบูรณ์ 100% เพราะสถานที่แห่งนี้ ไม่มีสัญญาณมือถือครับ อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ รีวิวเขื่นรัชประภา

น้ำตกแสงจันทร์ (น้ำตกลงรู)

น้ำตกแสงจันทร์ Unseen Thailand อีกที่หนึ่งนั้นอยู่ที่ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชะานีครับ สถานที่แห่งนี้ก็เป็นน้ำตกธรรมดา แต่ที่แปลกสุดๆ นั้นคืน้ำตกแห่งนี้ มีรูกลางหินระหว่างทางน้ำตก ที่ไหลลงเป็นเกลียวอย่างสวยงาม รูหินนี้เกิดจากากรถูกน้ำกัดเซาะ เนื่องจากหินทรายทนต่อการถุกกันกร่อนน้อยครับ ก็เลยเกิดน้ำตกแสงจันทร์ขึ้นมาได้อย่างลงตัวและสวยงาม สถานที่แห่งนี้ระหว่างทางที่เดินไปจะมีดอกไม้ริมทางสวยงามมาก ช่วงที่ผมไปเป็นช่วงประถมครับ ยังไม่ได้รีวิวเอาไว้เลยในสมัยนั้น แต่ก็จำได้ว่า มันสวยงามจริงๆ ถ้ามีโอกาสคงได้กลับไปอีก เพราะภาพความสวยงามของน้ำตกแห่งนี้ ถูกจดจำอย่างไม่มีวันลืม

แม่แจ่ม

แม่แจ่มตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเชียงใหม่ครับ ห่างจากตัวจังหวัดไม่ถึง 150 กิโลเมตร คือที่นี่้ต้องบอกว่าถูกอ้อมกอดด้วยภูเขา มีวัฒนธรรมที่ดีงาม มีวิถีชีวิตที่ทรงคุณค่า คงความเป็นไทยพื้นเมืองไว้อย่างเต็มร้อย ด้วยความสวยงามของถนนหนทางที่คดเคี้ยว ไต่ไปตามไหล่เขาจนได้รับฉายาว่าเป็นเมืองลับแลสอง สถานทตี่แห่งนี้จึงดูน่าสนใจเข้าไปอีก และจุดเด่นของที่นี่คือการปลูกนาขั้นบันไดครับ เนื่องด้วยลักษณะภูมิประเทศที่เป็นหุบเขา แม้แต่ถนนยังสร้างตามไหล่เขา แล้วบ้านหรือชุมชนที่อาศัยล่ะ คงต้องเป็นของเราใช่มั้ย เอ๊ะ มันแปลกๆ เขากับเรา เอ๊ะยังไง นั่นแหละครับ เป็นอีกสถานที่ที่หนึ่ง ที่ควรค่าสำหรับหน้าฝนมากๆ

ภูสอยดาว

น้ำตาจะไหลขอแชร์นะคะ ถ้าจะให้ใครถามว่าเคยมาเที่ยว จ.อุตรดิตถ์ มั้ย ขอตอบเลยว่าเคย ฮาๆๆๆ จ.อุตรดิตถ์ ก็เคยมาที่เดียว บนภูสอยดาวนี่แหละ ๕๕๕๕ ภูสอยดาวเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่เรียกได้ว่าเดินยากมากๆ ครับ ถ้าให้เรียงตามลำดับความยากในไทย ขอจัดไว้เป็นอันดับต้นๆ เลย ด้วยความสวยงามของดอกอะไรไม่รู้สีม่วงๆ จำชื่อไม่ได้ แต่ช่วงหน้าหนาวจะเป็นหน้าเดียวที่เจ้าดอกเนี่ย บานสะพรั่งไปทั่วทั้งผืนบนจุด Camping ครับ ซึ่งก็จะแทรกไปตามลานสนอย่างในภาพ ให้ตายเถอะ และหากเขาช้างเผือก มีสันคมมีดเป็นจัดวัดใจ สำหรับภูสอยดาวก็มีเนินมรณะ ที่วัดใจไม่แพ้กัน ฮาๆๆ ยังไงอ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยครับ รีวิวภูสอยดาว

ล่องแก่งน้ำว้า

แก่งน้ำว้าเนี่ย ตั้งอยู่ใน จ.น่านครับ เป็นแก่งที่มีความยาวสามระดับ ชั้นบน ล่าง และกลาง ซึ่งระยะทางของการล่องแก่งในครั้งนี้รวมแล้วกว่า 120 กิโลเมตรครับ ซึ่งความตื่นเต้นจะอยู่ที่เราต้องล่องแก่งเข้าไปในป่า และก็ใช้ชีวิตอยู่ในป่าตอนกลางคืนเลยครับ ของทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นถังน้ำแข็ง เสื้อผ้า อาหาร น้ำเปล่า เราจะต้องขนไว้กลางเรือ แล้วมัดด้วยตาข่าวอย่างแน่นหนา ระหว่างทางมีจุดพีคๆ เต็มไปหมด ไปมาสามครั้ง คว่ำไปสอง ติด Turbulent ใต้น้ำไปหนึ่ง บางจุดแรงมากจนต้องปล่อยให้แพไปก่อน แล้วเราค่อยเดินเลาะป่าตามไป เราไปที่นี่ทุกปีครับ เพื่อนๆ สามารถอ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ รีวิวล่องแก่งน้ำว้า 

ภูทับเบิก

ภูทับเบิกในสมัยที่ผมเคยได้ยินครั้งแรก ก็เห็นจะเป็นช่วง ประถมสี่ครับ สมัยก่อนบ้านเราและญาติเรามักจะขับรถจากต่างจังหวัดมาแคมป์ปิ้งที่ไกลๆ อย่างเพชรบูรณ์อะไรทำนองนี้ ซึ่งตอนนั้นจำได้ว่าเราไปนอนกันที่ลานกางเต้นท์ของภูหินร่องเกล้าครับ น้าก็ชวนมาภูทับเบิก แต่ด้วยความที่เราต้องขับรถกลับไปต่างจังหวัดไกล และมันต้องลงอีกฝั่ง เลยไม่มีโอกาสได้ไปสถานที่แห่งนี้ จนกระทั่ง อย่างที่เห็นในภาพครับ ภูทับเบิกที่ผมไปสวยมากกกกกก สวยจนแบบเข้าใจคำว่าทะเลหมอก เราเดินทางไปโดยรถส่วนตัว และกางเต้นท์นอนรอทะเลหมอกบริเวณจุดชมวิว ตื่นมาก็เจอวิวแบบนี้เลย ให้ตายเถอะ เพื่อนๆ ถ้าถามผมว่า ประเทศไทย ที่ไหนที่หาทะเลหมอกได้ง่ายที่สุด คำตอบของผมคือที่นี่ครับ ภูทับเบิก

สังขละบุรี

สถานที่นี้เป็นที่แรกๆ เลยที่ผมเริ่มเดินทางท่องเที่ยวรอบประเทศไทยครับ ซึ่งสังขละบุรี ไม่ได้มีแค่สะพานมอญ วัดจมน้ำ ชุมชนคนมอญ ตักบาตรข้าวเหนียว หรือข้ามไปฝั่งพม่าเพื่อไปสักการะบูชาหลวงพ่อที่วัดเสาร้อยต้น แต่สถานที่แห่งนี้ยังมีความคูลในป่าลับๆ อย่างล่องแพซองกาเรียครับ เพื่อนๆ จะต้องนั่งเรือเข้าไปในป่า ขี่ช้าง และเดินไปจุดปล่อยแพ จากนั้นก็ล่องแพกลับมาที่จุดพักของหมู่บ้านชาวมอญ ให้ตายเถอะ มันสนุกมากๆ แต่นี่ก็เป็นแรงดึงดูดที่ทำให้ผมติดการท่องเที่ยวมาจนถึงทุกวันนี้ อย่างไรก็ตามสถานที่นี้จึงเหมาะแก่การเที่ยวหน้าฝนสุดๆ ไปเลย แต่เสียดายที่ไม่เคยทำรีวิวเอาไว้เลย > <

ทุ่งดอกกระเจียว

ทุ่งดอกกระเจียว จ.ชัยภูมิ เป็นสถานที่ที่ต้องบอกว่ามีให้เห็นไม่บ่อยมาก เพราะมีแค่ช่วงเดือนมิถุนายนของไทยเท่านนั้น ระหว่างทางซึ่งการไปดูทุ่งดอกกระเจียงจะมีอยู่สองที่ด้วยกัน สามารถอ่านรีวิวได้ที่ รีวิวทุ่งดอกกระเจียว โดยระหว่างทางไปชมทุ่งดอกกระเจียวนั้น ทั้งสองแห่งเพื่อนๆ จะได้ชมความงามข้างทางของวิวสัปปะรด บางจุดจะผ่านน้ำตกตาดโตน และขับเลขเข้าไปชม Unseen Thailand อย่าง มอหินขาว ที่มีลักษณะการเรียงตัวแบบไม่ทราบที่มาอย่าง Stonehenge อย่างประเทศอังกฤษอีกด้วย > <

เขาหลวง

เขาหลวงนี่ต้องบอกว่าที่สุด ของที่สุดสำหรับการเดินทางในเมืองไทยครับ คือต้องบอกว่าเป็นอีกที่ที่ผมรักมากกกก เขาหลวง จ.นครศรีธรรมราช จะมีอยู่หลายยอดครับ ไม่ว่าจะเป็น เนินลมฝน ผาเหยียบเมฆ ยอดพรหมโลก บลาๆ ซึ่งหากเพื่อนๆ ต้องการจะเก็บทุกยอดบนเขาลูกนี้ จะต้องใช้เวลาถึงเจ็ดวัน ด้วยความที่เป็นป่าใต้ ความสวยงามอุดามสมบูรณ์รวมถึงความชุ่มช่ำในความเขียวขจีต้องบอกว่าเต็มที่สุดๆ เราจะต้องเดินทางริมธารในช่วงแรก และใต่ขึ้นไปเรื่อยๆ เพื่อเก็บยอด ระหว่างทางจะมีอาหารการกินในป่าทีแปลก แต่รสชาติดีมากๆ ไหนจะสัตว์หาดูยากที่ไม่เคยเห็น ถ้าโชคดีเราก็อาจจะเจอ แต่ทีเด็ดอยู่ตรงนี้ครับ ทากเยอะมาก ยังไงก็อยากให้ไปดูสักครั้งหนึ่งในชีวิตครับ : )

ปริโต๊ะลอซู

สถานที่นี้คือรูทเดินป่าที่แรกในชีวิตของผมครับ แล้วหลังจากนั้น ก็ติดใจการเดินป่าแบบแกะไม่ออกเลย การจะเดินทางไปที่นี่นั้น เราอาจจะแวะไปเยี่ยมน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอย่างทีลอซูก่อนก็ได้ ก็อยู่ใน อ.เดียวกันนั่นแหละ ไปแล้วก็ควรเก็บครับ แต่ที่แนะนำให้มาที่นี่ ก็เพราะว่าที่นี่ จะเห็นน้ำตกแค่ช่วงฤดูฝนเท่านั้น แล้วน้ำตกที่ปรากฏก็จะเป็นรูปหัวใจ จนใครหลายคนที่หลงเข้าไป ได้ตั้งฉายาให้น้ำตกแห่งนี้ว่าน้ำตกรูปหัวใจนั้นเอง ซึ่งการเดินทางจะต้องใช้เวลา 3 วัน 2 คืน เดินทางไปค้างแรมในป่า ตอนกลางคืนต้องบอกว่าริมน้ำตก กบอร่อยมากครับ น้องๆ ชาวม้งเค้าจับมาเฉือนให้กินกัน สถานที่แห่งนี้ เป็นอีกที่สุดท้ายที่ผมจะแนะนำในกระทู้นี้ครับ เพื่อนๆ สามาถอ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย รีวิวปริโต๊ะลอซู

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับ 11 ที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดหน้าฝนกระทู้นี้ หวังว่าจะมีบางที่ที่เพื่อนๆ ชอบใจในลิสต์ของผมนะครับ หรือหากเพื่อนๆ มีสถานที่แนะนำ ก็สามารถทิ้งไว้ที่ใต้กระทู้นี้ให้เราได้ตามรอยด้วยนะครับ แล้วเจอกันระหว่างทาง

 

Leave a Reply

*