รีวิว “เทวาศรม เขาหลัก” ที่พักดี โลเคชั่นกู้ด ห้องอาหารติดมิชลิน 3 ปีซ้อน!!!

เทวาศรม อ่านครั้งแรกหลายคนคงไม่รู้ว่าแปลว่าอะไร แต่พอเข้าใจความหมายแล้ว คุณจะเข้าใจผู้สร้างโรงแรมแห่งนี้มากขึ้น เทวาคือเทวดา และ ศรม ย่อมาจากอาศรม แปลว่าที่อยู่ พอนำมาสมาสกัน จึงเป็น #เทวาศรม ซึ่งหมายความว่า… ที่อยู่ของเทวดา รู้แบบนี้แล้ว คุณคงสัมผัสถึงอะไรบางอย่างแล้วสินะ เพราะเรากำลังรีวิวที่พักที่คล้ายราวกับว่ามาพักในบ้านของเทวดานั่นเอง 

พอเราเลี้ยวซ้ายเข้ามาจากทางเอก คุณจะรู้เลยว่า Location แห่งนี้ไม่ธรรมดา เพราะต้องผ่านถนนเส้นเล็กที่เต็มไปด้วยป่าเขียวขจี ข้ามสะพาน ข้ามแม่น้ำ จนมาเจอกำแพงสีครีมขนาดใหญ่แสดงอาณาจักรขอบเขตอย่างแน่นหนา เหลือบไปตรงหน้าจะเห็นสัญลักษณ์คล้ายดอกบัว แล้วมีตัวหนังสือพิมพ์ใหญ่ 7 ตัว คือ D E V A S O M ใช่ครับ คุณมาถูกทางแล้ว

Location ที่นี่ต้องบอกว่าอยู่ห่างจากเขาหลักราว ๆ 5 นาทีเห็นจะได้ เหมือนไม่ไกล แต่ Settle อยู่ริมน้ำและติดหาดวิวทะเลเลย อีกข้างก็เป็นป่าสน ทำให้สถานที่แห่งนี้ อยู่ในภูมิศาสตร์ที่ถูกจุด บวกกับสถาปัตยกรรมที่ท้าเลยว่าไม่มีที่ไหนเหมือน เลยทำให้ที่นี่ราวกับเป็นบ้านของเทวดาจริง ๆ 

พนักงานแต่งตัวโทนเทาอ่อนพร้อมรองเท้า Keen ตอนแรกนึกว่าหาใส่กันเอง แต่เปล่า เหมือนเป็น Uniform ของโรงแรม ทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใส และเหมือนว่าจะจำชื่อแขกที่จะเข้าพักของวันนั้น ๆ ได้ทุกคน Reception จะทำให้คุณสัมผัสถึงจุดที่เป็นภูมิศาสตร์ เพราะมองออกไปจากริมระเบียงด้านข้าง จะเห็นวิวทะเลลอดผ่านสถานปัตยกรรม ต้นไม้ แม่น้ำ หาดทราย ทะเล และลับตาที่ขอบฟ้า  

เสิร์ฟด้วยอันชัญมะนาวเย็นสดชื่น พร้อมด้วยผ้าเย็นกลิ่นสมุนไพรที่ทำให้ผ่อนคลาย พนักงานแนะนำตัวและพาเราเข้าที่พัก มี Buggy รับรองไม่ต้องเดิน แต่เราใคร่อยากเดินชมที่พักเทวดาที่นี่จริง ๆ ผ่านไปเจอฆ้องวงใหญ่ เลยตีให้ดังไปหนึ่งทีเป็นสัญญาณเตือนเทวดาว่าเรามาขออาศัยอยู่ 1 คืนนะ แต่ 3 ที คืออยู่ 3 คื… เห้ย!! ไม่ใช่นะ อันนี้คิดเอง จะตีเท่าไหร่กี่ครั้งก็ตีไปเถอะ 

หันไปทางซ้ายเธอจะเจอกับประตูไม้บานใหญ่เหมือนไว้ให้ยักษ์เดินเข้า มันโอ่อ่า ยิ่งใหญ่ ผ่านช่องนั้นไปก็จะมีเพียงแสงเล็ดลอดจากอาทิตย์เข้ามา คล้ายกับว่าให้ปลายทางเป็นแสงรอรับเราอยู่ปลายทาง เอาจริง ชอบโซนนี้มาก แต่แปลกที่ไม่ค่อยเห็นใครถ่ายลงรีวิวเลย 

ผ่านจุดนั้นมาจะเป็น Sky Walk ที่ทำให้เห็นสวน เห็นที่พัก เห็นพื้นที่ต่าง ๆ ของทางรีสอร์ท ซึ่งบอกไว้ก่อนเลยว่า เราคงรีวิวไม่ได้ทุกพื้นที่ เพราะมันค่อนข้างใหญ่ และเป็นส่วนตัวในแต่ละจุด ฉะนั้นรีวิวนี้เอง เลยจะรีวิวแต่เฉพาะพื้นที่ส่วนตัวของเรา ครั้งนี้เองเราพัก Beachfront Pool Villa ห้องหมายเลข 1 ครับ 

คั่นมาที่การเดินทางก่อน การจะมาที่นี่นั้น แนะนำให้ขับรถส่วนตัวมาเองจะดีที่สุด หรือบินมาแล้วติดต่อให้รถของรีสอร์ทไปรับก็ได้ ก็จะมีค่าใช้จ่ายอยู่บ้าง หรือบินมาแล้วเช่ารถ อันนี้ก็เป็นอีกวิธีที่จะทำให้เพื่อน ๆ ได้เที่ยวในสถานที่ใกล้เคียงอื่น ๆ ที่น่าสนใจในเขาหลักด้วย แต่เอาเป็นว่า ขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละคน ซึ่งทริปนี้ของเรา บินมาลงภูเก็ต แล้วเข่ารถขับมาที่รีสอร์ทครับ 

สายการบินที่อยากจะแนะนำสำหรับบินมาภูเก็ตมีหลายสายการบิน แต่เราอยากจะแนะนำ Bangkok Airways ครับ ไหน ๆ ก็พักที่ดี ๆ แล้ว ก็บินกับสายการบินดี ๆ ไปเลย เพราะ Bangkok Airways เค้าดูแลดีจริง ๆ นะ อาจจะราคาสูงกว่าสายการบินอื่น ๆ แต่สิ่งที่ได้ มันได้มากกว่าจริง ๆ 

ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าขนาด 20 kg ที่รวมมาแล้วแบบไม่ต้องซื้อเพิ่ม หรือจะเป็นกระเป๋าหนัก 7 kg สำหรับนำขึ้นเครื่องอีก ที่สนามบินสุวรรณภูมิก็มีห้องรองรับสำหรับผู้โดยสาร สามารถทานอาหาร ของทางเล่น กาแฟ เครื่องดื่มต่าง ๆ ก็มีให้หมด รวมถึงข้าวต้มมัดชื่อดังที่ใครได้ลองก็บอกว่าอร่อย 

บนห้องผู้โดยสารพนักงานดูแลดี ห้องโดยสารสะอาด และมีอาหารรวมถึงเครื่องดื่มเสิร์ฟบนห้องผู้โดยสารอีกด้วย เรียกได้ว่าคุ้มค่าสุด ๆ กับราคาที่จ่ายไปนะ ส่วนเรื่อง Flight Delay ตั้งแต่บินสายการบินนี้มา ยังไม่เคยเจอ มีแต่บินถึงก่อน เป็นอีกสายการบินหนึ่งที่อยากจะแนะนำจริง ๆ ครับ 

ตัดมาที่ห้องพักของเรา อย่างที่บอกว่าห้องของเราเป็น Beachfront Pool Villas เรื่องติดหาดขอให้ไว้ใจ รหัสห้องของเราคือ V1 ครับ ห้องตั้งอยู่ขวาสุดของพื้นที่ในรีสอร์ทและอยู่หน้าสุดติดหาด มองออกไปเป็นทะเล รู้สึกได้ผ่อนคลาย ได้อยู่ในจุดที่ได้พักผ่อนจริง ๆ ทิ้งทุกอย่างแล้วผ่อนกายสบายใจไปกับสภาพแวดล้อมรอบที่พัก

Features & Facilities ที่นี่ก็คือเป็น Beachfront Pool Villa ขนาด 150-160 ตร.ม. ทุกหลังมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่มองออกไปเห็นชายหาด มี แค่ 4 หลัง จาก 69 ยูนิต ที่ติดหาดขนาดนี้ พร้อมสปาเจ็ท ห้องนั่งเล่นแยกเป็นสัดส่วน และเก้าอี้อาบแดดส่วนตัวอีก 2 ตัว วางไว้ริมสระบนหาดทราย

ตอนเย็นช่วง 16:00 น. เป็นต้นไปสวยมากคุณ วันไหนอากาศดี ตรงนี้จะได้แสงสีทองสะท้อนน้ำระยิบระยับ บวกกับที่พักที่คุมโทนครีม น้ำตาล ขาว เหลืองแบบนี้ ถ่ายรูปออกมาแล้วภาพมันตัดกับสระสีฟ้านะ โหหหห… masterpiece เลยขอบอก!!!

ข้อความข้างต้นเป็นเพียงข้อมูลโดยสังเขปที่บวกกับประสบการณ์ของเรา เพื่อน ๆ สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมของห้องนี้ได้ทางนี้เลยครับ https://www.devasom.com/khaolak/accommodation/beachfront-pool-villa/

โดยส่วนตัวต้องยอมรับว่าไปพักห้อง Pool Villas มาเยอะมาก ๆ มีสิ่งหนึ่งที่ทางเราไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่คือระหว่าง Villas ไม่มีกำแพงหรือต้นไม้อะไรมากั้นระหว่างบ้าน ความเป็นส่วนตัวมันค่อนข้างหายไป บวกกับตัว Beach ที่อยู่หน้า Villas ก็เป็น Beach ที่ทุกคนสามารถเดินผ่านได้ ไม่ได้อยู่ในโซน Private เลยทำให้หากจะทำธุรส่วนตัวพักผ่อนแก้ผ้าหรือโจ๊ะทึงทึงอะไรก็ตาม จะค่อนค้างไม่สะดวกเท่าไหร่ ตัดคะแนนเรื่องนี้เรื่องเดียวเลย อื่น ๆ โอเคหมด  

เทวาศรมมีห้องทั้งหมด 69 ห้อง ในนั้นมี Pool Villas 12 หลัง ท่ามกลางบรรยากาศอันอบอุ่นตามที่เห็นในรูปเลย มากไปกว่านั้นคือมันหรูหรามีไสตล์จนได้รับรางวัล Tripadvisor Traveler’s Choice 2020-2023 อีกด้วย

มาดูห้องอาหารกันบ้าง ที่นี่ห้องอาหารจะมีอยู่ 2 ที่ด้วยกันคือ Beach Grill & Ta Ko La แต่ละที่ก็จะยูนีคแตกต่างกันไปซึ่งจะขอขมวดให้เข้าใจง่าย ๆ ตามประสาเพื่อนนั่งคุยกันเลยนะครับ เริ่มต้นด้วยห้องแรกคือ ห้องอาหาร “ตะ โก ลา” ห้องอาหารแห่งนี้ ใช้ชื่อเมือง ตะโกลา ซึ่งแปลว่า “ตะกั่วป่า” ในสมัยนี้นั้นเอง เป็นห้องอาหารที่ใช้เสิร์ฟแขกตอนเช้า และเที่ยง โดยอาหารจะเน้นไปทาางอาหารไทย ภายในมีบาร์ และห้องเก็บไวน์สำหรับผู้มาพักผ่อน บรรยากาศโดยรอบสะอาด มองออกไปด้านนอกจะเห็นวิวแม่น้ำที่ไหลลงสู่ทะเล

อาหารที่นี่เค้าจะนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาผสมผสานอย่างให้เกียรติ แขกจะได้ลิ้มรสอาหารไทยต้นตำรับที่ปรุงขึ้นด้วยเทคนิคการทำครัวเก่าแก่ที่สืบทอดกันรุ่นต่อรุ่น ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นเป็นหลัก ปลาจากชาวประมง ไข่จากฟาร์มออร์กานิก ผักตามฤดูกาลจากเกษตกรบริเวณนั้น เพื่อให้แน่ใจถึงความสด คุณภาพสูงและความยั่งยื่นของชุมชนท้องถิ่นอีกด้วย ห้องนี้ได้รับรางวัลจากมิชลินไกด์ เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน ตั้งแต่ 2021 – 2023

อีกห้องอาหารหนึ่งที่ได้ับเกียรติจากมิชลินไกด์คือ บีช กริล แอนด์ บาร์ ห้องอาหารติดทะเลของเทวาศรม ห้องนี้จะเสิร์ฟท่ามกลางบรรยากาศผ่อนคลายและมีสไตล์ บวกกับวิวทะเลอันดามันมีมองไปแล้วสุดลูกหูลูกตา เมนูอาหารทุกจาน บวกเลยว่าอร่อยมาก จำไม่ได้ว่าสั่งอะไรได้ แต่ทั้งหมดนี้คือเป็น 4,000 กว่าบาท ที่อร่อยมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็น สลัด Signature ที่มีเฉพาะในห้องอาหารแห่งนี้ หรือจะเป็นซุป Lobster และ Steak เนื้อดีกลิ่มติดเพดานปาก บอกเลยว่าจัดเต็มจริง ๆ ที่นี่ แต่เสียดายที่คนเยอะ ไม่กล้าถ่ายบรรยากาศมาให้ดูครับ ติดคนอื่นแน่นอน

ต้องบอกไว้ก่อนว่า เราไปพักแค่คืนเดียว บางจุดไม่มีเวลาจะเก็บภาพ และบางที่ก็ถ่ายไม่ได้เพราะแขกเข้าพักเยอะมาก ๆ โดยเฉพาะห้องอาหาร และสระส่วนกลาง เพื่อน ๆ สามารถดูภาพบรรยากาศห้องอาหารและโซนอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ในที่ Official Website รีสอร์ทนะครับ 

การเข้าพักรีสอร์ทรีสอร์ทหนึ่ง ปัจจัยหลักคืออาหารเช้าที่จะไม่พูดไม่ได้ และที่นี่เค้าใส่ใจดูแลแขกผู้เข้าพัก โดยการใช้ห้องอาหาร “ตะ โก ลา” ในการรองรับสำหรับมื้อเช้าครับ

คุณ มันเป็นมื้อเช้าที่ดีมาก ๆ ไลน์อาหารไม่ได้เยอะขนาดนั้น แต่ทุกเมนูที่เค้าคัดสรรมาแต่ละวันก็คือไม่ซ้ำ รวมถึงใส่ใจรายละเอียดยิบย่อยเล็กน้อย ไม่ว่าจะเป็นสัปปะรดที่ปาดแบบใส่ใจงอทิ้งหางไม่เหมือนที่อื่น หรือเมนูธรรมดา ๆ อย่างขนมจีนน้ำยา ก็สามารถนำมาขึ้นโต๊ะได้อย่างเพอร์เฟ็ค

การที่เค้าใส่ใจกับอาหารเช้าแบบนี้ ผมบอกเลยว่ามาถูกทางแล้ว เพราะทุกที่ห้องพักอาจจะนอนสบายเหมือนกันหมด บรรยากาศก็คล้าย ๆ กัน หรือบางกลุ่มไปพัก ก็คืออยู่แต่ในห้อง แต่ขอบอกเลยว่า มาที่นี่ แค่ได้เข้าอาหารก็เหมือนได้มาท่องโลก เหมือนได้มาดูงานศิลปะ ทานไป สนุกไป มันฟีลนั้นเลยคุณ

และช่วงที่เราไปมีงาน Sol พอดี ซึ่งตลอดทั้งเดือนพฤษภาคมนี้ ทางเทวาศรม เค้าจัดกิจกรรมเปิดประสบการณ์เทศกาลเวลเนสระดับลักซ์ชูรีครั้งแรกในไทยอย่าง Sol Festival ด้วย เป็นกิจกรรมที่เน้นการเติมพลังงานบวกให้เราได้ผ่อนคลายความเครียดจากความวุ่นวาย และสร้างสมดุลความสงบสุขสงบใจจากภายในสู่ภายนอกท่ามกลางธรรมชาติที่สุดจึ้งแบบนี้

จริง ๆ Sole แปลว่าดวงอาทิตย์ในภาษาละตินแหละ ซึ่งตัวกิจกรรมที่เค้าจัดหามาให้จะปรับสมดุลของร่างกาย จิตใจด้วยพลังงานดี ๆ จากแสงธรรมชาติของ Sol นั่นเอง กิจกรรมมากมายเลยคุณ ไม่ว่าจะเป็นตีกลองรอบกองไฟ บำบัดด้วยเสียง สมาธิ ฝึกลมหายใจ เต้นรำแบบเอคสตาติก ผจญภัยกับเรือคายัค อาบน้ำในป่า เทสติ้งไวน์น้ำผึ้ง และอีกอื่น ๆ เพียบ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.devasom.com/khaolak เลย

แล้วตอนนี้ที่นี่เค้ามีเทศกาล Sol ซึ่งเป็น Luxury wellness ที่เคลมว่าหรูที่สุดในไทย จัดแพ็คเริ่มต้น 6,400 บาทต่อคืน เมื่อเข้าพัก 2 คืนขึ้นไป ราคานี้ รวมห้องพัก อาหารเช้า บัตรเข้างานเพื่อร่วมกิจกรรม 2 ใบ ซึ่งเข้าร่วมกิจกรรมแบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง พร้อมสิทธิพิเศษอื่น ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอาหาร 10% เครื่องดื่ม 20% อีกด้วย

ก่อนจะจบรีวิวบทนี้ ผมอยากจะฝากรถเช่าที่ผมใช้บ่อยมาก ๆ ทั้งเชียงใหม่และภูเก็ต นั่นก็คือ   ต้องบอกว่าไม่วุ่นวาย บัตรเครดิทไม่ต้อง คุยกันง่าย ๆ และราคาเช่าหลักร้อยก็มี อย่างหน้าฝนแบบนี้ Vios คันดำที่เราเช่าตีไป 1,000 บาทต่อวันกลม ๆ ไปเลย พนักงานมาส่งรถถึงหน้า Gate ไม่ต้องเดินไปรับรถเอง 

รวมถึงตอนส่งรถด้วยนะ แค่โทรแจ้งพนักงานก่อนถึงสนามบินสัก 10 นาที ก็จะมีพนักงานมารอรับที่ประตูขาออกเลย แล้วในกรณีเราเร่งรีบ หรือมีเหตุการณ์เร่งด่วน ก็แจ้งเค้าว่าให้จัดการเรื่อง Full Fuel ให้เลย สามารถส่งบิลมาเก็บย้อนหลังกับเราได้ ทำให้ประหยัดเวลา ไม่เสี่ยงตกเครื่องอีกด้วย 

สุดท้าย สามารถส่งรถ รับรถได้ทุกจุดในภูเก็ตเลยนะ ยังไงเพื่อน ๆ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  กินเที่ยว รถเช่า kinteawrentacar เชียงใหม่ และ ภูเก็ต หรือโทร 095-4488844 และ 084-1775554 ได้เลย สำหรับรีวิวนี้ขอลาเพียงเท่านี้ หวังว่าจะป้ายยาเพื่อน ๆ ได้ไม่มากก็น้อยครับ อิ๊

Leave a Reply

*