น้อยครั้งที่จะตื่นเต้นกับที่พักหรือร้านอาหารที่เราไปนั่งทานกันกับพี่ กับเพื่อน และพ่อแม่พี่น้อง ต้องบอกไว้ก่อนเลยว่า เราไม่เคยรู้จักสถานที่แห่งนี้มาก่อน กระทั่งผู้ใหญ่ที่เคารพ ที่พอจะรู้จักกับเจ้าของ ได้พาเรามาสถานที่แห่งนี้
ไม่แปลกเลยที่เรายังไม่รู้จัก เพราะ “บ้านอาจ้อ” ยังไม่เปิดให้เข้าพักเลย เจ้าของเค้าตั้งใจจะเปิดให้แขกได้เข้าพักหลังเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ รวมถึงร้านอาหาร “โต๊ะแดง” ที่เราจะได้มาลิ้มลองรสชาติในครั้งนี้ด้วย ต้องขอบคุณที่หนึ่งแห่ง Quiksilver & Roxy Thailand มาก ๆ ที่ทำให้เราได้มีโอกาสมาที่นี่ เลยขอเอาโอกาสนี้มาเผยแพร่ให้กับเพื่อน ๆ ในเพจเสียเลย
จริง ๆ แล้วบ้านอาจ้อเนี่ย เค้ามีประวัติยาวนานนะ เริ่มสร้างตั้งแต่ปี 1936 ซึ่งตัวประวัตินี้ หากเอามาเล่า ก็เกรงว่าจะผิดเพี้ยนไปจากข้อมูลจริง แต่เอาเป็นว่า บ้านทั้งหลัง เจ้าของบ้านเค้าได้รับอิทธิพลมาจากมาเลเซีย เมืองปีนัง เจ้าของบ้านชอบสไตล์บ้านเรือนของทางนู่น ก็พยายามจะไปปีนัง จดจำ บันทึก เพื่อกลับมาสร้างบ้านตนเองในประเทศไทย
อาจ้อนี่หมายถึง “ทวดหญิง” บ้านนี้มี 3 ชั้น 8 ห้องนอน รอบบ้านอย่างที่บอกว่าเป็นสไตล์ปีนังเลย แนวๆ ชิโน-ปุตุกิส มีมุมถ่ายรูปมากมาย หรือเรียกได้ว่าแทบจะทุกมุม ทั้งภาพถ่ายเก่าแก่บ่งบอกถึงอายุ และเรื่องราว ภาพวาดฝาผนัง ของใช้ต่าง ๆ ล้วนแล้วแต่มีร่องรอยเรื่องราวด้วยกันทั้งสิ้น
บ้านอาจ้อจะเปิดให้เข้าพักหลังเดือนสิงหาคมนี้ โดยค่าห้อง จะรวมอาหาร 3 มื้อ ตกห้องละ 5,500 บาท มีขนมนนมเนยให้รับประทานกันตลอด 24 ชั่วโมง ภายในมีภาพฝาผนังแนววินเทจและสไตล์การแต่งบ้านกว่า 100 จุดให้เพื่อน ๆ ถ่ายกันเล่น แต่ไม่เหมาะสำรับเด็กนะ เพราะของแต่ละชิ้น ล้วนแต่มีชิ้นเดียวในโลก หากทำพังหรือแตกสลายไป คือไม่สามารถประเมินค่าได้
ราคาที่แจ้งนั้น ไม่มีช่วง Low – high นะ เป็นราคา Standard ราคาเที่ยวตลอดปี มีสวนมะพร้าวพันไร่ให้วิ่งเล่น มีสวนยางให้เรียนรู้ มีเทพทำอาหารไทยอยู่ร้านโต๊ะแดง ซึ่งในโซนข้างบ้านนี้ เป็นร้านอาหารรับแขกช่วงเที่ยงและช่วงเย็นด้วย รสชาติอาหารที่นี่ ขอบอกว่าอร่อยทุกอย่าง กุ้งก็เป็นกุ้งสดจากฟาร์มของเจ้าของเอง มีเมนูอาหาร Signature เพียบ ขนาดของหวาน ยังเป็นไอสครีมที่ทำจากมังคุดเลย เรียกได้ว่า ภูมิปัญญาประยุกต์โดยแท้
ขนมนมเนยก็ทำจากพืชสวนครัว เช่นคุกกี้มะพร้าวเม็ดมะม่วง ขอบอกว่าอร่อยเว่อร์ และช่วงนี้เอง ตั้งแต่ 1 ก.ย. -31 ต.ค. เค้าลดราคา 50% เหลือแค่คืนละ 2,500 บาทต่อห้อง ราคานี้ รวมอาหารเช้าให้ และ Afternoon Tea ด้วย ใครที่มีแพลนจะมาภูเก็ต ลองแวะมาย้อนวันวาน ดูความงามของบ้านทรงไทยประยุกต์ปี 1936 แห่งนี้กันดูนะครับ รับรองว่าจะต้องชอบเหมือนพวกเราแน่นอน
สุดท้ายนี้ สำหรับลูกเพจที่น่ารักคนไหนต้องเดินทางหาที่พักที่ไหนก็ได้บนโลกใบนี้ สามารถรับส่วนลด 1,000 บาทไปเลย เพียงจองผ่าน https://www.booking.com/s/palapi11 แบบผูกบัญชีบัตรเครดิท แค่นี้เงินก็จะจ่ายคืนกลับเข้าไปในบัตรแบบสบายกระเป๋าหลังจากเข้าพักเรียบร้อยแล้ว แต่ใช้สิทธิ์ได้แค่คนละ 1 ครั้งเท่านั้นนะ และยอดจองต้องมากกว่า 2,000 บาท ขึ้นไปคร้าบบ แล้วเจอกันระหว่างทาง