THE HIGHEST FERRATA IN THE WORLD – Low’s peak circute at Mt.Kinabalu

สวัสดีครับเพื่อนๆ ไมไม่ขออ้อมค้อมอะไรเลย รีวิวนี้จะมีแต่เนื้อให้เพื่อนๆ ได้ดูดได้เสพย์กัน แน่นอนว่าหลายคนอาจจะงง ว่าอี Ferrata (เฟอร์ราตะ) คืออะไร ก่อนที่ไมจะเล่าเม้าแตก ก็ขออธิบายให้กับเพื่อนๆ บางท่าน หรือแม่งอาจจะทุกคนก็ได้ ที่ไม่รู้จัก ให้ได้รู้จักกัน

เวียเฟอร์ราตะ (Via Ferrata เป็นภาษาอิตาลี หมายถึงเส้นทางแห่งเหล็ก) คือเส้นทางปีนเขาที่มีการติดตั้งวงแหวนเหล็ก ราว และสายเคเบิลที่ยึดติดกับหน้าผาเอาไว้ให้เหล่าผู้ท้าทายได้เดินสวนหมอกกันลงไปด้านล่าง ซึ่งทั่วทั้งโลกมีเส้นทางเวียเฟอร์ราตะอยู่กว่า 300 เส้นทาง โดยเส้นทางเวียเฟอร์ราตะที่สูงที่สุดอยู่ที่ภูเขาคินาบาลูในมาเลเซีย โดยจุดสูงสุดเริ่มต้นมีความสูงที่ 3,400 เมตร และสิ้นสุดที่ 3,776 เมตร จากระดับน้ำทะเล ซึ่งก็คือในรีวิวตัวนี้นี่เอง

หลายคนมีคำถามต่อ ว่าถ้ามา Via Ferrata ที่นี่ จะได้ขึ้น Summit Mt.Kinabalu ไหม (ยอดเขาคินาบาลู) ได้ขึ้นแน่นอน เพราะเดินต่อไปจากจุด Start Low’s peak Circuite ที่ กม. 7.5 อีก 500 กว่าเมตร ก็จะถึง Summit ที่ 4,095.2 ของ Mt.Kinabalu แล้วล่ะ หรือใครจะไม่ขึ้นก็ได้นะ มองดูยอดจากด้านล่างเอา อันนี้ก็พีคดี ฮาๆๆๆ ซึ่งรีวิวการท่องเที่ยว โคต้า คินาบาลู เดี๋ยวไมจะรีบปล่อยเร็วๆ นี้แน่นอน

กลับมาที่ Via Ferrata Low’s peak circuit ที่นี่อยู่ตรง กม. 7.5 ก่อนขึ้น summit เราจะเริ่มต้นที่ความสูง 3,776 เมตรจากระดับน้ำทะเล แล้วไล่ลงไปด้านล่าง ซึ่งโปรกแกรมนี้จะต้องใช้เวลาราวๆ 4-5 ชั่วโมง แบ่งเป็น 3 Parts หลักๆ คือ ช่วง Ferrata Jungle และ Walk the Torq โดยการจองโปรแกรมนี้ ก็จะผูกขาดกับบริษัท Mountain Torq Sdn Bhd หรือหากใครซื้อผ่านจาก Agency อีกทีหนึ่งก็ได้ ราคาจะเริ่มต้นอยู่ที่ 2,430 – 2,730 MYR ถ้าคิดเป็นเงินไทยก็คูณ 8 เข้าไป ณ เรทตอนนี้ //เดือนสิงหา 2018

ซึ่งใครที่ทำโปรแกรมนี้จะถูกแยกตัวมานอนที่ Pendant Hut ของบริษัท ซึ่งดีมากๆ มีเตียงให้นอน มีอาหาร มีเครื่องดื่ม ถุงนอน ห้องน้ำ ครบหมด แต่ราคาก็อย่างว่า ก็ดูที่จ่ายในข้อมูลด้านบนสิ ฮาๆๆ ก็นะ มาทั้งทีก็เอาหน่อย และจริงๆ แล้ว ที่นี่ Activities ถึง 2 ตัวด้วยกัน คือ Low’s peak circuit ที่เรากำลังจะทำ กับ Full Walk the torq อันนี้สำหรับเด็กน้อยหน่อย แต่ก็พอตัว และก็ไม่ต้องห่วง ในโปรกแรมของ Low’s peak circuit ของเรา มีแจมกิจกรรมของ Walk the torq ในบางช่วงตอนสุดท้ายแน่นอน

เอาล่ะมาถึงตรงนี้ ใครสนใจจริงๆ ก็เข้าไปที่เว็บนี้เลย https://www.mountkinabalu.com/packages/2d1n-mount-kinabalu-climb-with-ferrata-lpc รับรองได้เรื่อง แต่ก่อนเริ่มทำอะไรที่มันท้าทายกับร่างกายและจิตใตตัวเอง เราก็ต้องมาให้กำลังใจกันเองก่อน เริ่มต้นจาก give me five แล้วก็ตะโกนดังๆ เหมือนคนบ้าไปทั่วทั้งเขา ๕๕๕ คือตอนนั้น จำได้ว่า พูดไรไม่รู้เสียงดังมาก แล้วก็ตะโกนโหวกเหวกดังมาก ๕๕๕

เจ้าหน้าที่จะสอนแบะบรีฟเราตั้งแต่เดินถึง Base camp แล้วล่ะ พอมาถึงหน้างานจริงๆ ก็จัดแจงทุกอย่างเอง ใส่อุปกรณ์ ร้อยสาย Cable แต่เตรียมตัวเตรียมใจร่างกายให้พร้อม Step แรกที่เห็นตรงหน้า คือภาพนี้เลย //นี่คือกูจะต้องลงไปตรงนี้จริงๆ ใช่ไหม ฮาๆๆๆ

ครั้งแรกทำอะไรไม่ถูก นั่งก่อน แล้วพยายามรื้อฟื้นความทรงจำตอนเรียนว่าต้องทำยังไง เอาล่ะ เริ่ม Step แรก จากนั้นก็ Step by Step ค่อยๆ เลื่อนลงไปทีละก้าว ทุก Step ต้องไม่ลืมติดสายเชือกไว้กับห่วง และ C-Clamp ไว้กับ Cable

หลายคนคงไม่เข้าใจว่ามันน่ากลัวขนาดไหน เลยดึงกล้อง Gopro ที่ติดมาด้วย ลากยาวขึ้นสุดแล้วชูบนหัวให้ได้รู้มุม รู้ภาพกันไปเลย คือมันค่อนข้างเสียวอ่ะ จำได้ว่า 10% ของเวลากว่า 4 ชั่วโมงเท่านั้น ที่จะหันลงไม่มองพื้นด้านล่างตอนช่วง ferrata คือมองแล้วขามันจะอ่อน ฮาๆๆ

ลงไปเรื่อยๆ ราวๆ 30 นาที แดดก็ออก นี่ลืมบอกว่า Low’s peak circuit จะเริ่มเวลา 07.00 AM ใครที่ขึ้น summit ไปแล้ว ลงมาไม่ทัน เจ้าหน้าที่จะทิ้งเลย คือโหดมากกก พอดวงอาทิตย์ออก ก็เริ่มร้อนปนหนาว คือยังไงดี คืออากาศมันหนาว แต่แดดเผา แล้วเมฆก็จะลอยขึ้นมาเรื่อยๆ น่ากลัวมาก แต่ก็สวยสุดๆ

บอกไว้ตรงนี้เลยว่า การเดินยอดเขา Kinabalu ระหว่างทางไม่มีทางราบ คือจะหาว่ากูโม้ก็ไม่ได้นะ แม่งไม่มีทางราบเลยจริงๆ มึงเลยคิดกันดูนะ เดินทั้งหมด 8 กิโลเมตร ขึ้นไปที่ความสูง 4 กิโลเมตร ถ้าเทียบเป็นอัตราส่วนขององศาโดยเฉลี่ย คือมึงต้องเดินขึ้นตลอดเวลาที่ 45 องศา จนถึงยอดเขาอ่ะ คิดดูแล้วกัน ฉะนั้น ขาสั่น จึงไม่แปลก

กล้ามเนื้อหล้า ขาสั่นยังไม่เท่าไหร่อิห่า ยังต้องมา Ferrata นี่แหละ พีคจริง สูงก็สูง แรงก็หมด ข้าวก็หิว เสียวก็เสียว ขาเสือกสั่นแบบคุมไม่อยู่อีก คือมึงเข้าใจอารมณ์ขาสั่งแล้วคุมไม่อยู่ป้ะ มันสั่น งิ้กๆๆๆๆ ทำอะไรไม่ได้เลย นี่ก็กลัวจะตกเหวเอา แต่เพื่อแลกกับประสบการณ์และวิวที่ได้ แม่งโคตรคุ้มมมม!!!

เดินไปอีกหน่อย มองไปด้านล่างใต้กลุ่มเมฆ ก็มีอีกพวกหนึ่งที่กำลังไต่สะพานราวข้ามผาไปอีกผา ดูสนุก ดูธรรมดา ดูไม่เบื่อหน่าย แต่จะบอกให้ ว่าด้านบนเป็นการ Zoom ของกล้อง ถ้ากู zoom ออกตอนนี้นะ มึงจะร้อง โหหหหววววว อีเชี่ยยย อ่ะ พร้อมยัง พร้อมมั้ย

อ่ะ 1

2

ซั่ม!!!

อกอิแป้นจะแตกไหมล่ะมึง แต่อีกไม่นานก็ถึงตาเรา กำลังลงเรื่อยๆ อยู่ เดินลงเรื่อยๆ กูขอแวะแดกข้าวเที่ยงก่อน แล้วเดี๋ยวจะมาปั่นต่อ จบวันนี้แหละ ไม่นานหรอก

แล้วก็ถึงตาเราครับ ตอนเราไปแดดเริ่มออกแรงแล้วล่ะ แต่ก็ยังเสียงอยู่ คือมันเอียน มันเองตามแรงโน่มถ่วงและตัวเรา สิ่งหนึ่งที่อยากให้เพื่อนๆ จำไว้เลยว่า ตลอดระยะเวลาที่ทำ Low’s peak circuit อยู่เนี่ย ถ้าหยุดเมื่อไหร่ ขาจะสั่นทันที ไม่ใช่เพราะกลัวความสูงนะ แต่คือกล้ามเนื้อมันหล้าไปแล้ว และนี่ก็เป็นอีก Highlight หนึ่งของกิจกรรมนี้ แต่ๆๆๆ แต่ยังไม่หมด ใน ferrata ยังมีอีก highlight หนึ่ง นั่นก็คือ…

จบจาก Highlight ตรงนี้ ก็จะเริ่มสบายๆ แล้วครับ เป็นทางลงไปเรื่อยๆ จนถึง Jungle Zone ซึ่งตัวนี้ก็เป็น sling เส้นเดี่ยว ให้เพื่อนๆ ได้ไต่ข้ามหน้าผาอีกเช่นเคย โชคดีที่เมฆเยอะ บังแสงอาทิตย์ไว้หมด เราเลยไม่ร้อนมาก ไกด์บอกว่า วันไหนไม่มีเมฆ ร้อนเหี้ยๆ

เสร็จจากกิกจรรม Ferrata เราก็มาต่อด้วยการเดินป่าครับ ซึ่ง Jungle Zone ตรงนี้ จะหาไม่ได้ตามเส้นทางเดินทั่วไปของ Kinabalu นะครับ ต้องมาเล่นกิจกรรมนี้เท่านั้น ซึ่งป่าที่นี่ต้องบอกว่า สมบูรณ์มากๆ มีนก มีสัตว์ มีต้นไม้นานาพันธุ์ให้ได้ชมระหว่างเดินป่า ที่สำคัญคือ ไม่มีบันไดให้เดินเหมือนทางธรรมดาด้วย ต้องไต่หิน จับกิ่งไม้กันเอา เรียกได้ว่าสมบูรณ์สุดๆ แต่ตอนนั้นคือไหม่ไหวแล้ว เหนื่อยมาก

หลุดออกมาจากป่าได้ โคตรดีใจ แต่แม่งยังไม่จบ อย่างที่เกริ่นไปตั้งแต่ตอนแรก ว่าเราจะต้องเล่น Part ย่อยของ Walk the torq ก่อนปิดเกมส์นี้ด้วย ซึ่งการ Walk the torq เนี่ย ก็ต้องใช้กำลังขามากๆ เพราะเป็นช่วงขาขั้นครับ ยังไงเดี๋ยวจะทิ้ง Map ของ Route กิจกรรมนี้ให้ดูคร่าวๆ ว่าจะเป็นยังไง

เอาล่ะ มาเริ่ม Walk the torq กัน การ walk the torq ก็ทำคล้ายๆ กับ ferrata เลย แต่จะดูไม่น่ากลัวเท่า เสียอย่งาเดียวคือต้องเดินขึ้น แต่ก็เดินขึ้นไม่นานครับ เดินไปเรื่อยๆ พร้อมกับความสูงที่เพิ่มขึ้น และเรียวแรงที่ลดลง จะมีบางช่วงบางตอนเท่านั้นที่น่ากลัว

อีกไม่กี่อึดใจ เราก็ปิด Job กิจกรรม ที่เรียกว่าเป็น Ferrata ที่สูงที่สุดในดลกแล้วครับ สนุกมาก เหนื่อยมาก สวยมาก หิวมาก ไกด์ดีมาก (ไกด์ชื่อเจมส์) คือสุดจริงๆ แบบว่าใครมาขึ้นยอดแล้วไม่ได้มาทำตรงนี้ถือว่าผิดอ่ะ แต่ถ้าถามว่าให้มาอีกไหม คงไปกลับไปอีกเร็วๆ นี้แน่นอน คือมันยากอยู่นะ เดินขึ้นเขาลูกนี้อ่ะ ขอพักยาวๆ ไม่ trekking ทั้งปี 2018 เลยแล้วกัน ๕๕๕๕

เอาล่ะ ขอบคุณเพื่อนๆ ที่อ่านกันจบมาถึงตรงนี้ สำหรับใครที่อยากไป ยังไงลองหา Flight ดินดีๆ ราคาถูกจากเว็บประจำ Traveloka ของผมได้เลย ซึ่งเว็บนี้เว็บเดียวเก็บครบจบหมดทั้งตั๋วบินและที่พัก อย่างที่บอกว่าสะดวก และง่ายต่อการจ่ายมากๆ เพราะมีหลายช่องทางให้เลือกชำระเงิน อีกทั้งตัวเว็บไวต์ Traveloka เอง ก็เรียงลำดับ ราคา เวลา ตามความต้องการของเราในช่อง Filter เรียบร้อยแล้วด้วย และที่ชอบคือการจองที่พัก

ด้วยความที่เวลาเราเดินทางไปต่างสถานที่จริงๆ เราไม่รู้หรอก ว่าที่พักเราใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวที่เราจะไปในวันพรุ่งนี้หรือเปล่า หรือมันสะดวกต่อการหาของกินหรือเปล่า แล้ววิวตอนเช้าเป็นอย่างไร การมี Map ใน Traveloka จึงเป็นอีกตัวช่วงหนึ่งที่ทำให้การเลือกจองที่พักของเราง่ายขึ้น และหากสังเกตุตัวเลือกด้านบนแถบขวา จะมีตัวเลือกตามความต้องการของเพื่อนๆ อีก 5 ความต้องการให้เพื่อนๆ ได้เลือกกัน เรียกได้ว่า ในทริปนี้ Traveloka ตอบโจทย์คืนก่อนที่จะขึ้นเขาคินาบาลูของผมมาก ผมเลือกพักห้องพักราคา 995 บาท ด้านขวาสุด เป็นห้องพักในไร่ชา Sabah ชื่อดังของเมืองนี้ แล้วเจอกันระหว่างทางครับ

:: follow us ::

Youtube : https://goo.gl/Tk9uHo
Fan Page : https://goo.gl/kDE9eh
Facebook : https://goo.gl/S42XZq
Instagram : https://goo.gl/60tM0B
Twitter : https://goo.gl/wx2I34
Pinterest : https://goo.gl/P1FsxN
Google+ : https://goo.gl/uQrGS9
Website : https://www.palapilii.com/

#palapilii
#wanderlust
#YOLO

Leave a Reply

*