:: หลังจากคุยโทรศัพท์บอกแม่ในคืนวันศุกร์ ผมก็กดวางสาย เราตกลงกันแล้ว ว่าอาทิตย์นี้ ไมจะไม่ไปไหน…
:: ผมสะดุ้งตื่นตอนตีสาม ช่วงนี้มีงานให้คิดเยอะ ปวดหัวบ่อยๆ นั่งนิ่งอยู่บนที่นอนได้ซักพัก
ก็ลุกขึ้นไปหยิบกุญแจที่วางไว้บนชั้นวางของ แล้วบอกกับตัวเองว่า…. กุจะไปดูหมอกที่เขาค้อ : )
“สวัสดีเขาค้อ ตอนแรกของการเดินทาง”
ปล.ภาพทุกภาพจากถ่ายจากมือถือของผม
ปล2. ผมไปคนเดียวจ่าย 3,000 เพราะฉนั้น ไปกัน 2 คน จ่ายแค่ 1,500 ครับ อันนี้ไปเซอร์เวย์มาให้
:: Follow us ::
Youtube : https://goo.gl/rVqoVe
Fan Page : https://goo.gl/kDE9eh
Facebook : https://goo.gl/S42XZq
Instagram : https://goo.gl/60tM0B
Twitter : https://goo.gl/wx2I34
Website : http://www.palapilii-thailand.com
:: ทริปนี้คิดสั้นๆ ไม่ทำอะไรมาก แค่อยากไปดูหมอกที่เขาค้อ อยากได้บุญก็ไปต่อที่วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว
ฮิปหน่อยก็แวะ Route12 ถึกอีกนิดเมิงแวะล่องแก่งน้ำเข็กก่อนก็ได้ แล้วเมิงค่อยขับเข้าสาย 11 แล้วเลี้ยวขวาเข้า 1295
อีก 30 กิโลกว่าๆ ก็จะถึง อ.เนินมะปราง ดินแดนแห่งความลับ ที่แม่มใครๆ ก็อยากมา… กุเป็นหนึ่งในนั้น
:: หกโมงกว่าๆ กุมาโผล่ตรงทางขึ้นเขาค้อ เชดเข้ หมอกหนาเหี้ยๆ กุรู้สึกฟิน กุปิดแอร์ เปิดกระจก เอามือซ้ายจับพวงมาลัย
ส่วนมือขวาก็เอาออกมาโต้ลมข้างนอก อากาศดี อากาศเย็น เขาค้อยังคงเป็นเมืองที่แวะมาเมื่อไหร่ก็ได้ในความคิดของผม
:: ขึ้นมาข้างบนผิดหวังนิดหน่อย ไม่เจอทะเลหมอก แต่แม่มก้ไม่ใช่ประเด็น ทริปนี้ เขาค้อเป็นแค่ทางผ่าน
ซื้อโจ๊กร้อนๆ มานั่งกิน กับวิวแจ่มๆ ตอนเช้า แล้วตบด้วย มันเผาควันเทาๆ ที่ลอยล่องไปกับลมที่โชยมา ไหนควัน?
:: เรื่องแรกที่เพื่อนๆ ควรรู้ไว้คือเนินมะปรางไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยว แต่เป็นที่ที่เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ ไม่มีกิจกรรมที่ทำให้หัวใจเต้นซู่ซ่า แต่มีวิวสวยๆ ที่เพียงแค่ขับรถผ่าน ก็ทำให้ชื่นใจ มาที่นี่ อย่าหวังว่าจะเจอ อย่าหวังว่าจะเห็น อย่าหวังว่าจะได้เก็บภาพสวยๆ ไปอวดเพื่อนๆ แต่จงมาเพราะใจที่ต้องการปล่อยไปกับธรรมชาติ เอาร่างมาพัก เอากายมาพัก เอาใจมาพัก…
มาดูข้อมูลคร่าวๆ ที่ผมจะแนะนำเกี่ยวกับที่นี่ ที่ที่เรียกว่า เ นิ น ม ะ ป ร า ง
1. อย่ามารถประจำทาง ขับมาเองดีกว่าเว้ย เพราะท่าทางลำบากมาก แนะนำให้มาเช้ามืดวันเสาร์ เช่น ตีสอง ตีสาม ขับมาทางเพชรบูรณ์ แล้วไปเช้าเขาค้อ ไปชมทะเลหมอกและชิวแถวนั้นก่อน จากนั้น ขับลงมาที่ ถนนหมายเลข 12 >> 11 >> 1295 ก็จะถึง อ.เนินมะปราง แล้วเบี่ยงซ้ายเข้า 1115 ไปบ้านมุง จุดพักแรกของเรา
2. ที่พักสำหรับเนินมะปรางยังไม่ค่อยพอสำหรับนักท่องเที่ยวนะ ยังไงมา walk in เอา หรือนอนกับชาวบ้านก็ไม่น่าทีปัญหา แถมเข้าถึงสุดๆ
3. สถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ จะเป็นถ้ำ และก็วิวภูเขา เน้นมา slow life ยังไม่มีทัวร์และกิจกรรมที่ทำให้ต้องชิต
4. ช่วงเดือนสิงหา จะมีผีเสื้อเป็นหมื่นตัว บินออกมาเกาะกินน้ำหวานตามพื้นตามทุ่งหญ้าบริเวณเชิงเขาบ้านมุง
5. ช่วงปลายพฤศจิกายนถึงธันวา จะมีค้างคาวกว่าแสนตัวบินเป็นสายออกมาจากถ้ำ ในช่วงเวลา 6 โมงเย็นเป็นต้นไปของทุกๆ วัน
6. ช่วงเดือนพฤษภาคม จะมีหิงห้อยเป็นหมื่นตัวอยู่บริเวณบนเขาบ้านรักไทย
7. อาหารที่นี่ราคาถูกมาก ขีดเส้นใต้อีกที “ถูกมากกกก” จริงๆ
8. เหมาะที่จะมาพักใจ ถ้าใครเพิ่งอกหัก เมิงมานอนพักที่นี่เลย 5555
:: เอาเข้าจริงๆ แล้ว ผมก็เก็บไม่หมดตามที่บอกไว้ข้างบนหรอก แต่ถ้าทุกคนทำตามเหมือนข้อข้างบนแม่มโคตรฟินอะ คราวนี้มาดูดีกว่า ว่าผมมาเจออะไรบ้าง แล้วมาทำอะไรกับที่นี่บ้าง หลังจากที่ผมขับรถตามทางในแผนที่มาเรื่อยๆ ที่แรกที่ผมเจอคือถ้ำเดือนถ้ำตาว ถ้ำนี้เหมือนถ้ำปกติทั่วไป แต่ที่แปลกก็คือ พอเราเข้าไปแล้วจะได้ยินเสียงน้ำไหลข้างใน เวลาเอาไฟฉายส่องไปที่สายน้ำ จะเห็นเป็นแสงระยิบระยับสะท้อนมาจากเกล็ดพลอยใต้ถ้ำ น้องเค้าบอกว่าสวยมากๆ บรรยากาศรอบข้างมืดมากๆ สิ่งที่ผมกลัวที่สุดคือเสือ แต่แล้วก็เจอจนได้ ผมรู้สึกแปลกๆ ตั้งแต่ตอนต้นว่ามีคนเดินตามมา ทั้งๆ ที่ผมแม่มมาคนเดียว ทุกครั้งที่ก้าวเดิน รู้สึกเหมือนว่าจะมีคนแนบข้างตลอดเวลา ผมทำท่าเป็นไม่รู้สึก ไม่รู้ ไม่สนใจ และก็เดินต่อไปของผมเรื่อยๆ เชี่ยแล้ว รู้สึกหวิวๆ เหมือนมีคนเดินผ่านหน้า บรรยากาศแย่กว่าตอนแรก จากที่มีแสงส่องผ่านมาบ้าง กลับไม่เหลือให้เห็นแม้แต่เงา อิสัส! อยู่ๆ แม่งก็มายืนอยู่ตรงหน้า ผีตนนั้นตะโกนด้วยหน้าตาที่โกรธมากๆ ว่า… อีสึส! เมิงไม่ได้เข้าไป เมิงกลัวผี อิเชี่ย!! ใช่ครับ พอผมไปถึงหน้าถ้ำ ผมก็ถ่ายรูปมาสองรูปแค่นี่แหละ แม่งมืดชิบหาย ไปคนเดียว ใครจะกล้าเข้าไปวะ ผมเลยรีบวิ่งกลับไปที่รถ
:: ผมขับรถออกมาจากถ้ำเดือนถ้ำดาว ขับชมหมู่บ้านไปเรื่อย วิวข้างทางก็สวยใช่ย่อย แต่อารมณ์ผมในวันนี้คือ ไม่พร้อมที่จะเที่ยว และผมก็มาแบบไม่รู้เหี้ยอะไรด้วย เลยกะว่าจะไปหารีสอร์ทอยู่ เมาซัก 1 ตั้ง หาสถานที่งามๆ ของที่นี่ แล้วรอดูค้างคาวตอนเย็น
:: โชคเข้าข้างเหี้ยๆ หลังจากที่หาข้อมูลจนรู้สึกว่าแน่นเหมือนคนอ้วน ฝนก็ตกลงมาราวกับว่าเมิงนอนตายอยู่ในห้องนี่แหละ ไม่ได้พักไม่ได้นอนมาหลายคืนแล้วไม่ใช่หรอ ยังเจือกขับรถมาไกลอีก ผมเลยเอาของที่ซื้อไว้ก่อนเข้ามาที่พัก มายำรวมกัน ทำเป็น Bucket Full Moon Party ซะเลย แต่อันนี้ดีกว่าเหลือๆ เพราะซื้อผลไม้มาหั่นใส่เข้าไปด้วย แด๊กได้สองสามปื๊ด หลับตายคาเตียงค่ะ ๕๕๕๕
ปล.เรื่องที่พักที่นี่ยังไม่ค่อยมีให้บริการนะ แต่ที่ผมใช้บริการคือของ พ่อแร่ รีสอร์ท ราคาคืนละ 450 บาท โอเคเลย มีน้ำอุ่น มีแอร์ มีทีวี และนี่ เบอร์โทรครับเพื่อนๆ 062-042-2685
:: วันนี้ผมตื่นแต่เช้า กะจะลุกขึ้นมาดูหมอก ตั้งนาฬิกาไว้อย่างดี เจือกตื่นอีกทีตอน 9 โมง เอาเถอะ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ขับมาดูหน่อยแล้วกัน อยากเห็นภาพเหมือนในรูปที่เห็นในเฟสบุ๊ค ตรงนี้คือ ขับมาบ้านมุงแล้วเลี้ยวซ้าย ซอยตรงกันข้ามโรงเรียนบ้านมุงนะครับ ก็จะเห็นวิวนี้เลย ขับไปเรื่อยๆ ก็จะเป็นวิวสวยๆ เยอะแยะไปหมด…
:: ผมกลับไปที่ห้องเพื่อ check out แล้วบอกว่า เด่วจะมีคนมาพักกับพี่อีกเยอะเลย ๕๕๕ ไม่รู้ว่า หลังจากอ่านรีวิวนี้ จะมีคนไปพักตามผมมั้ย แต่เชื่อว่า 50% ต้องโทรไปจองที่พักแล้วแน่ๆ ๕๕๕๕ เอาหละ ทริปนี้ผมไม่รีบเร่งอะไร แล้วก็ไม่ได้อยากเก็บครบทุกที่ แต่อยากไปให้เห็นแค่ในภาพที่เพจ ที่นี่ อำเภอมะปราง โพสต์เอาไว้แค่นั้นเอง ก็จะมีถ้ำหลายๆ ถ้ำเลย แต่ไม่ชอบถ้ำอะ เลยไปอีกแค่ถ้ำเดียว สะพานไม้ ละก็ชิงช้าลอยฟ้า เอาหละ ไปดูกันต่อ
:: ออกมาจากเส้นนั้น ก็เลยแวะไปที่วัดบ้านมุง ไปกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธ์ และก็เข้าไปดูถ้ำนางสิบสองต่อเลย สำหรับผม ถ้ำนางสิบสอง ไม่ได้สวยอะไรเลย ดูธรรมดามาก เฉยๆ โคตร แต่ก็ไม่รู้ว่ามีเรื่องราวอะไรรึป่าว ยังไงลองไปกันดูครับ
:: อ่านทุกบรรทัด ทุกตัวอักษรครับ แล้วจะรู้ว่าผมรีวิวอยู่ ไม่ได้เล่าเรื่อยๆ แน่นอน ทุกๆ แลนด์มาร์ค และวิธีไป จุดสังเกตุ ผมบอกหมดเลยนะ เอาหละ ออกมาจากบ้านมุง วิ่งเข้า 1295 กันอีกครั้ง คราวนี้เราจะไปบ้านชมภู
:: ก็ไม่ได้มาเก็บอะไรที่นี่นะ มาเก็บแค่สะพานไม้เฉยๆ วิ่งเข้ามาจากทางหลักราวๆ 10 กิโลเมตร ไหนๆ ก็มาแล้ว เลยแวะมาเก็บซะหน่อย ตอนที่มาตอนแรก คิดว่าทุกอย่างจะอยู่ที่เดียวกันซะอีก เลยบอกไงว่า ถ้าไม่มีรถส่วนตัว อย่าเพิ่งมา เพราะลำบากมากกกกกกกกก
:: เออ มาเพื่อถ่ายแค่นี้จริงๆ และก็ตีรถกลับ ลองหาข้อมูลใน google เพิ่มนะ เผื่อมันมีอะไรมากกว่า มันมีแหละ แต่อยากกลับแล้ว คราวนี้ก็ขับออกไปทางเดิม แล้วเลี้ยวขวาไปบ้านรักไทย ใครรถเก่าทำใจหน่อย ทางค่อนข้างชันเป็น 10 กิโลที่ทำให้คุณปู่ (รถยนต์) เครื่องร้อนอย่างน่าใจหาย ข้างบนนั้นบรรยากาศดี มีน้ำตก มีป่ายาง มีหิงห้อยช่วงเดือนพฤษภา เออ มีเยอะอะ แต่จุดหลักสำหรับทริปนี้คือ ชิงช้าบนต้นไม้
:: จะบอกให้ว่าไปยังไง เดินทางไปที่โรงเรียนบ้านรักไทยนะ มันจะมีซอยก่อนถึงโรงเรียน เข้าไปทางนั้นเลย เข้าไปประมาณ 2 กิโล ข้าสะพานไปหน่อย ขับไปซักพักมองทางซ้าย จะเจอบ้านที่มีสีสันแปลกตา เลี้ยวเข้าไปเลย จำชื่อรีสอร์ทไม่ได้ว่าเรียกว่าอะไร ป้าแกเก็บค่าบริการ 20 บาทต่อคน จะเล่นสลิง หรือชิงช้าอะไรก็ว่ากันไป จ่ายให้ป้าแกด้วย แกจะได้เอาไป Maintenance ดูจากสภาพแล้วน่ากลัวอยู่ ไม่ค่อย Safe เท่าไหร่ ยังไงก็ขอให้เที่ยวเนินมะปรางกันอย่างมีความสุข รีวิวดิบๆ แบบนี้แหละ ไม่ละเอียด ไม่เล่า ไม่เม้าเยอะ ดีก็ว่าดี ไม่ดีก็ว่าไม่ดี จะไปก็เผื่อใจไว้ด้วย มันก็ไม่ได้สวยอย่างที่คิดนะ ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้ แล้วเจอกันตามงานต่างๆ ครับ ขอบคุณครับ : )
น่าไปมากๆเลยค่า