Site icon PALAPILII-THAILAND

รีวิวเชียงใหม่ 3 วัน 2 คืน – กินเที่ยวในงบไม่เกิน 5,000 บาท/คน [ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน]

สวัสดีครับ… ต้องบอกว่า เชียงใหม่ของแต่ละคน ต้องนี้ไม่พ้นทะเลหมอกแน่นอน ซึ่งรู้ไหมว่า ทะเลหมอกเนี่ย จริง ๆ แล้วอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองเลย ขับรถไปเพียง ชั่วโครงครึ่งก็ถึงแล้ว

วันนี้เราเลยจะพาเพื่อน ๆ เก็บครบจบหมดในกิจกรรมที่น้อยคนจะรู้ เรื่องถึงที่พักแสนพิเศษหลักร้อยวิวหลักล้าน ทะเลหมอกเยอะจนแทบสำลัก ไม่ใกล้ไม่ไกล โซนแม่แตงนี้เอง

ทริปนี้ เราบินโดยใช้สายการบิน Thai smile เหตุผลง่าย ๆ คือเจ้านี้เค้า Full Service ก็คือยูจองตั๋วบินเค้าก็ฟรี Load ปลาเก๋าคนละ 20 kg. ไปเลยสิคะ มากกว่านั้นยังมีอาหารว่างให้ทานเล่นระหว่างบินอีกด้วย

ตัวเบาะสะอาด พื้นที่วางขาพอดิบพอดี เจ้าหน้าที่หน้ารัก ไล่มาตั้งแต่กราวน์ยันพนักงานดูแลบนเครื่องบินเลย ที่สำคัญ New Generation แล้ว น้อง ๆ หน้าตาดี ยิ้มเก่ง มองไม่เบื่อเลยสักคน

เพียง 1 ชั่วโมงกว่า ๆ เราก็เดินทางมาถึงเชียงใหม่แล้ว และแน่นอนว่าการเดินทางในเชียงใหม่ ถ้าจะทำเวลา มันก็จำเป็นที่จะต้องใช้รถเช่าครับ ทริปนี้ AVIS ต้องมา

เหตุผลที่เลือก AVIS คือไม่ต้องคิดไรมาก นางมีทุกที่ในไทย ก็คือไปที่ไหนก็มี Shop ให้เข้าไปปรึกษาทุกจังหวัด มีปัญหาก็หายห่วงเพราะบริการครอบคลุม สะดวก รวดเร็ว

เอาจริงแล้ว จากประสบการณ์ส่วนตัวที่ไปเที่ยวมาทั่วโลก นางมีอยู่ทุกที่จริง ๆ แม้กระทั่งในเมืองเล็ก ๆ บางประเทศ นางก็ฝังตัวอยู่ในนั้น จึงไม่แปลกใจที่ AVIS จะเป็น Buddy การเดินทางของฉันไปแล้ว

กลับมาที่เชียงใหม่ก่อน จะบอกว่า ที่เชียงใหม่ วันไหนจังหวะเหมะ จะได้รถเช่าราคาเพียง 700 บาท/วันเท่านั้นเองเด้อ ซึ่งถือว่าคุ้มมาก ๆ ที่เอาเหล็กมาหุ้มเนื้อ เพราะว่าถ้าเช่ามอไซต์ 300 บาท/วัน ก็คือครึ่ง ๆ ไปเลย

เอาล่ะ รถพร้อมแล้ว ที่นี่เรามาดูแผนการเดินทางของเรากันดีกว่าว่า ทริปนี้… เราจะบุกไปที่ไหนกันบ้าง ซึ่งเอาจริง ๆ แล้ว แผนการเดินทางรอบนี้ ทุกที่คือใหม่หมดสำหรับผม ก็คือไม่เคยไปมาก่อนเลยนั่นเอง ๕๕๕๕

DAY 1

DAY 2

DAY 3

บอกเลยว่าหลวม ๆ เน้นไปชิล ๆ ไม่อัดแน่นจนเกินไป จากรูทนี้ ขับรถไปกลับไม่ถึง 300 กิโลเมตรเลยด้วยซ้ำ เอาล่ะ หลังจากนี้ จะใส่เป็น Content สถานที่ละที่ที่ไปมาเลยแล้วกัน ซึ่ง Timeline เหตุการณ์ ก็องิตามด้นาบนไปเลย

กิมจื้อ Specailty Coffee

เอาจริง ๆ เลยคือที่นี่เนี่ย จู่ ๆ ก็แทรกทริปขึ้นมาในวันนั้นเลย เหตุผลคือ เราบินไปถึงเร็วเกินคาด Thai smile นางไม่มี Delay เลยหรอ เวลาแบบตรงเป๊ะ ก็เลยถามคนเชียงใหม่ ว่าควรไปกินร้านไหนดี นางก็เลยแนะนำร้านนี้มา

กว่าจะไปถึงยอมรับว่าหลงทาง ซอยซอกแซกมาก แต่พอเห็นร้านก็เข้าใจเลยว่าทำไม เพราะนางเอาบ้านทั้งหลัง มาทำร้านกาแฟเว้ยเห้ย

จะบอกว่าบ้านเสียทีเดียวไหม ก็ไม่หรอก แต่เป็นตึกแถว ที่เคยขายยามาก่อน ไม่รู้ทำอิท่าไหน เปลี่ยนร้านขายยาโบราณ มาเป็น Specailty Coffee เก๋ ๆ ได้เนี่ย

ตัวร้านตกแต่งผสมผสนามช่วงเวลาได้กลมกลืนมาก ๆ และรสกาแฟก็กลมกล่อมอีกต่างหาก รับรองว่าถ้าไป ถ่ายรูปไม่เบื่อแน่นอน เมนูเยอะ ราคากลาง ๆ แต่รับรองว่าคุณต้องชอบ

Omagase Chiang Mai (Gokana)

ขอบอกาเลยว่า มาเชียงใหม่ ไม่เคยนึกถึง Omagase เลยแกกกกกก เอ้ออ… คือที่นี่เนี่ย จริง ๆ ก็อยู่นอกแพลน แต่เจ้าของร้านดันติดต่อมาพอดี ว่าที่เชียงใหม่ ก็มี Omagase ที่รสชาติดีไม่แพ้ญี่ปุ่นเลย

พูดมาขนาดนี้ เราก็ต้องลองลิ้นกันหน่อยไหมล่ะ ขอขายนิดหนึ่งนะ นางบอกว่าช่วงนี้นางทำโปรฉลองครบรอบ 1 ปีขอร้าน ก็เลยจัด Special Course ในราคาเพียง 3499++ บาท มาให้นักเที่ยวได้ลองทานของดีกัน

อ่ะ… มาดูรายละเอียดอาหาร และภาพปลากกรอบ 18 Course Premium ประกอบไปด้วยย…
Welcome Drink Yuzu Sparkling

– Sensai (Appetizer) –
– Hokkaido Chawanmuchi ไข่ตุ๋นสไตล์ฮอกไกโด On top ด้วย Fukahire
– Katsuo Smoked & WasabiCream ปลาคัตสึโอะย่างหอมกับฟาง เสิร์ฟพร้อมวาซาบิครีม
– Ika soumen & Uni Sauce หมึกหอมสไลด์เสิร์ฟกับซอสหอยเม่นญี่ปุ่น
Awabi ni Sake หอยเป่าฮื้อญี่ปุ่นต้มกับสาเก

– Nigiri Course –
— Mikandai ปลามาไดเลี้ยงด้วยส้ม ได้กลิ่นหอมของส้มเต็มๆคำ
— Santsuma ทำให้เนื้อปลามีกลิ่นหอม เมนูตามฤดูกาลหาทานได้แค่ช่วงนี้เท่านั้นนะคะ
— Kinmedai ปลากระพงแดงตาโต
— Nama Sujiko ไข่ปลาแซลมอนแบบสดเสอร์ฟทั้งพวง
— Hokkaido Botanebi กุ้งหวานโบตัน ไซส์ใหญ่พิเศษจากฮอกไกโด
— Akami tamago Zuke ทูน่าเนื้อแดงหมักกับซอสไข่แดง เสิร์ฟแบบ Hand Roll
– Otoro Aburi ทูน่าเนื้อส่วนแรกไขมันย่างถ่านไม้ขาว เนื้อนุ่มละลายในปาก
— Tamago Yaki ไข่หวานสไตล์ฮอกไกโด ผสมเนื้อปลาและหอยเชลล์

– Special Season Course –
— Taraba Chabu ชาบูขาปู Taraba
— Ankimo boiled Redwine ตับปลา Ankimo ต้มเสิร์ฟคู่กับไวน์แดง

– Signature Course –
— Hokkaido Uni French Toast
— Wagyu Kastu Sando แซนวิชเนื้อวากิว A5

– Soup –
— Hamaguri Akadashi miso ซุปมิโสะแดงกับหอยฮามากุริ

– Dessert –
— Japanese Terrine Chessecake

เปิดให้บริการ แบ่งเป็น 4 รอบ
รอบที่ 1เวลา 12.00- 14.00 น.
รอบที่ 2 เวลา 14.00 -16.00 น.
รอบที่ 3 เวลา 18:00- 20:00 น.
รอบที่ 4 เวลา 20.00 -22:00 น.
(ร้านหยุดทุกวันจันทร์)

สนใจจองคอร์สมื้อพิเศษกับเรา สามารถจองได้ที่
Line Official : @gokanaomakase (มี@ด้วยนะคะ)
Line Click : https://lin.ee/GYUZ72o
โทร  : 084-226-5247

สำหรับผม … สั้น ๆ คำเดียวว่า ดี!!! มาลอง

น้ำตกหมอกฟ้า

จริง ๆ น้ำตกแห่งนี้ เป็นนักตกที่อยากมาตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว แต่คือสมัยก่อน เราไปแต่โซนแม่ริมอ่ะเนอะ พอค้นหาคำว่าหมอกฟ้า มันดันต้องขับไปอีกถนนเส้นหนึ่งเลย ก็เลยไม่ได้ไปสักวัน วันนี้วันดี มีโอกาสได้มาลุยแม่แตง เราไม่มีทางพลาดที่นี่แน่นอน

เอาจริงนะ… แค่ทางเข้าก็สวยแล้ว เดินไปเพียงไม่กี่ร้อยเมตร ก็ได้ยินเสียงน้ำตกดังลั่นป่าเลย ตัวน้ำตกเองสูงจากหน้าผาชันราวๆ 30-40 เมตร บริเวณนั้นสามารถเล่นน้ำ แคมป์อาหารกันได้ชิล ๆ อากาศดีตลอดปี

อดไม่ได้ที่จะถอดรองเท้า แล้วเอาขาจุ่มน้ำครับ จุ่มไปจุ่มมา เปียกโชกไปทั้งตัว เพราะตัวน้ำตกพอกระทบกับแอ่งน้ำด้านล่าง บวกกับ Location ที่รอบข้างเป็นแอ่งมีกำแพงหินคลุมทั้งพื้นที่แล้ว ลมมันพัดตีหน้าตีตัว เปียกไปหมดเลย แต่ก็สนุกมาก ๆ

สำหรับเพื่อน ๆ ที่จะไปน้ำตกหมอกฟ้า ผมแนะนำช่วงหน้าหนาวเลย ถ้าหน้าฝน น้ำจะเยอะเกินไปครับ ส่วนตัวคือว่าที่นี่ หน้าหนาวสวยหว่าหน้าฝน เพื่อน ๆ ลองพิจารณาหาภาพช่วงหน้าฝนจากที่อื่นมาเทียบก็ได้นะครับ

WALK CAMP (ไร่อ้อมกอดภูเขา)

ที่นี่เนี่ย จริง ๆ เราก็ไม่ได้ตั้งใจจะมาเลย แต่บังเอิญ ช่วงที่สอบถามลูกเพจ (ก็คือโพสต์ถามหน้าเพจ ว่าไปเที่ไหนดี) เค้าแนะนำที่นี่มา เราไม่รอช้าที่จะติดต่อเข้าไป และต้องบอกว่า ได้ที่พักเฉย ๆ

จะอธิบายคร่าว ๆ แบบนี้ว่า ตัว Walk Camp จริง ๆ แล้วคนไทยไม่ค่อยรู้จัก และทางเจ้าของเองก็ไม่ค่อยโปรโมทในไทยสักเท่าไหร่ เพราะกิจกรรมและพี่พัก รู้สึกว่าไม่ตอบโจทย์คนไทย ทำไมหรอ ก็เพราะ…

ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีเครื่องปรับอากาศ ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น เดินทางลำบาก ต้องลุยโคลน อาบน้ำช้าง ขี่ควาย เกี่ยวข้าว กินอาหารที่ไม่ซ้ำกันของแต่ละมื้อ ขึ้นอยู่กับแม่ครัวอยากทำอะไรนั่นเอง

แต่แม่ง… บอกตรง ๆ มันเป็นเสน่ห์สำหรับคนบางกลุ่มแบบมาก ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ โดยเฉพาะกูเนี่ย ชอบอะไรแบบนี้มาก ก็เลยตกลงพักที่นี่เสียเลย และตอนที่พักที่นี่คือชอบจริงชอบจังด้วยนะ

กิจกรรมหลัก ๆ ก็จะอาบน้ำช้าง ขี่ความ เกี่ยวข้าว ทำกาแฟ ดริฟกาแฟ ล้อมกองไฟเล่นเกมส์ บลา ๆ เออ มันเยอะอ่ะ มีเดินป่าหลังเขาที่พักอีกถ้าอยากเดิน เอางี้แล้วกัน ใครอยากมาอยู่กับธรรมชาติจริง ๆ ก็ต้องที่นี่เลย คลื่นแทบไม่มี เรียกได้ว่า ตัดหายไปจากโลกไปเลยถ้าอยู่ที่นี่

ขี่ช้าง ล่องแพ ล่องแก่ง (แม่แตง)

แกกกกก… จริง ๆ กิจกรรมนี้อ่ะ ต้องมี แต่คือ… เราติดใจ Walk Camp อาบน้ำน้องช้างนานไปหน่อย ขี่ควายเล่นบลา ๆ จนมันกินเวลากิจกรรมนี้ไปหมด แต่ ๆๆๆ เราไม่ลืมที่จะให้ Contact สำหรับติดต่อกิจกรรมพวกนี้ในราคาถูก ๆ แน่นอน เพื่อน ๆ สามารถติดต่อไปที่ Line: @Gotravel ได้เลยนะ เค้ามีขายทุกอย่างในแม่แตง หรือจะไปค้นหากิจกรรมอื่น ๆ ในเชียงใหม่ได้ที่เว็บเค้าเลย

จูเล๊ยะแคมป์ (ม่อนเงาะ)

หลายคน ๆ ที่เคยไปโซนนั้นสงสัย อยู่ตรงนั้นแล้ว ทำไมไม่ขึ้นห้วยกุ๊บกั๊บไปเลยล่ะ …  โหหหห… คนไปเยอะเกิ้นนนน แบ่งคอนเท้นท์ไปที่อื่นเป็นการกระจายรายได้บ้าง ซึ่งบอกเลยว่า ม่อนเงาะ… ก็สวยไม่แพ้กัน

แต่… เดินทางไกลกว่ากุ๊บกั๊บ และทีพักมีแค่ 8 หลังเท่านั้น (ตอนนี้กำลังสร้างเพิ่มอีก 2 หลัง) คือที่พักโอเคเลย ตอนแรกคิดว่าจะไม่สวย แต่พอไปถึง คือดูดีมีมาตรฐานกว่าที่คิดไว้มาก ๆ เลย

ค่าที่พัก เต้นท์ละ 1,600 บาท (หารสองตกคนละ 800 บาท เท่านั้น) เพื่อน ๆ สามารถติดต่อกับพี่เค้าได้โดยตรงเลยนะ ในที่พัก็มีให้ทุกอย่างเลย เป็นที่พักที่มีห้องน้ำส่วนตัวทุกห้องนะ หมูกระทะก็มี ชุดละ 400 บาท ก็จำไม่ผิด บรรยกาศดีครับ

ตัวบ้าน จะเป็นบ้านไม้ แล้วมีกระโจมด้านใน ป้องกันฝนในหน้าฝน  ตอนเช้าอย่าให้พูดมาก หมอกคือมีทุกวัน เจ้าของที่พักบอกว่า ใครมาไม่เจอหมอก ถือเป็นคนโชคดี เพราะทุกคนที่มาเค้าเจอกันหมด เราอ่ะ… แปลก ๕๕๕๕๕

ก็ไม่พูดไรมาก ดูที่พัก กันเลยดีกว่า ให้รูปเค้าอธิบายตัวเค้าเอง น่าจะดีกว่าผมพูดพร่ำทำเพลงไปเรื่อย ๕๕๕๕

หมาล่าชาวจีน

แกกกกกก… ต้องขอโทษจริงๆ ตอนชั้นไป มันปิด แต่ ๆๆ เด่วเอารูปเก่ามาดูให้ และจะบอกว่า มันเป็นร้านหม่าล่า ที่เป็นชาบูเสียบไม้ ขายเพียงไม้ละ 5 บาทเท่านั้น แล้วคือรสชาติดีมากกกกกก ใครแฮ็งค์ ๆ อยู่ มาที่นี่ก็คือตื่นเลยล่ะ

ส่วนสถานที่นางใช้เป็นภาษาจีนอ่ะ เด่วเอาพิกัดไป search เอาละกันนะ copy ไปตามนี้เลย :

และนี่ก็คือ ทริปเชียงใหม่แบบลางาน 1 วัน เก๋ ๆ แค่นี้ก็คือโอเคเลยนะ ไม่เหนื่อยไป และยังได้ภาพสวย ๆ กลับบ้านอีกเพียบ สุดท้ายจะบอกว่า ระหว่างทางไปที่นี่ มีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะ กว่านี้มากกกกก แต่เราไม่ได้แวะ และบางที่ ก็ไม่ได้เอามารีวิวด้วย เชื่อว่าเพื่อน ๆ ที่ตามรอยทริปนี้ จะต้องได้แวะหลายที่กว่าเรา และได้ภาพเยอะกว่าเราแน่นอน

สุดท้ายนี้… ก็จะหมดปี 2021 แล้ว อยากให้เพื่อน ๆ เที่ยวกันอย่างระมัดระวัง ทั้งอุบัติเหตุ และเจ้าโควิดด้วย กลับมาบ้านจะได้ดูภาพท่องเที่ยวกันอย่างสนุก และได้เที่ยวสถานที่อื่น ๆ กันต่อด้วย แล้วเจอกันระหว่างทางนะครับ

สรุปรายจ่าย

ค่ารถเช่าวันละ 1,200 บาท 3 วัน = 3,600 บาท

ค่าน้ำมันทั้งทริป 800 บาท

ค่ากินจิปาทะ. 2 คน ราว ๆ 2000 บาท

ค่าที่พัก คนละ 800 บาท

ค่า Walk Camp คนละ 2,500 บาท

รวมทั้งทริปราว ๆ 10,000 บาท หารสอง ตกคนละ 5,000 บาท

ถ้ารวมตั๋วไปกลับ ยังไงก็ไม่เกินหมื่น!!!

Exit mobile version